กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 10
31
สินค้ามือสอง / Re: ตามหาปืนยาว L96 ราคาเบาๆ
« กระทู้ล่าสุด โดย มด เมื่อ มกราคม 19, 2025, 10:49:24 AM »
32
ซื้อขาย ปืนBB.Gun / Re: อยากทราบปืนk7ยังมีอยู่ใหมคับ
« กระทู้ล่าสุด โดย มด เมื่อ มกราคม 19, 2025, 10:48:48 AM »
ปืนสวยมากๆ


ขอบคุณมากครับ

33
ซื้อขาย ปืนBB.Gun / Re: อยากทราบปืนk7ยังมีอยู่ใหมคับ
« กระทู้ล่าสุด โดย sxaza21 เมื่อ มกราคม 15, 2025, 08:06:11 AM »
ปืนสวยมากๆ
34
สินค้ามือสอง / Re: ตามหาปืนยาว L96 ราคาเบาๆ
« กระทู้ล่าสุด โดย sxaza21 เมื่อ มกราคม 15, 2025, 08:05:34 AM »
เยี่ยมๆ
35
พูดคุยทั่วไป / 6 วิธีแก้โถสุขภัณฑ์กดไม่ลง
« กระทู้ล่าสุด โดย pitoon เมื่อ ธันวาคม 03, 2024, 03:31:34 PM »
โถสุขภัณฑ์ สุขภัณฑ์ชิ้นเดียว กดไม่ลง ทำยังไง
สาเหตุที่ทำให้โถสุขภัณฑ์กดไม่ลงมีอะไรบ้าง?

ต้นเหตุที่ทำให้ชักโครกกดไม่ลงมีด้วยกันหลากหลายประการ ซึ่งแน่นอนว่าหากทราบ ก็ย่อมเป็นประโยชน์ในการป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากปัญหาดังต่อไปนี้

    เกิดการอุดตัน: หนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดคือการอุดตันของท่อระบายน้ำที่เกิดจากการทิ้งกระดาษชำระหรือเศษขยะอื่น ๆ ลงในโถชักโครก ดังนั้นถึงแม้จะเป็นวิธีกำจัดขยะที่สะดวกสบาย แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงเพื่อป้องกันปัญหาที่ตามมา
    ระดับน้ำน้อยเกินไป: อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โถสุขภัณฑ์กดไม่ลงคือระดับน้ำในถังที่ต่ำเกินไป จนไม่เพียงพอที่จะชำระล้างและสร้างแรงดันเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ในชักโครก ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหานี้ จึงควรหมั่นตรวจสอบระดับน้ำให้พอดีต่อการใช้งาน
    ลูกยางรั่ว: ลูกยางรั่วเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ชักโครกกดไม่ลง เนื่องจากลูกยางคือชิ้นส่วนที่ทำหน้าที่เปิดปิดช่องทางน้ำของโถสุขภัณฑ์ ดังนั้นเมื่อเกิดการรั่วน้ำจะค่อย ๆ ระบายออกจากถัง ทำให้ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการกดน้ำเพื่อชำระล้าง ซึ่งหากปัญหานี้เกิดขึ้น ควรเปลี่ยนลูกยางโดยเร่งด่วน
    ฟลัชวาล์วชำรุด: เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อเวลาผ่านไป ฟลัชวาล์วอาจเกิดการชำรุดและสึกหรอได้ จากสาเหตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะการเสื่อมสภาพตามธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ซึ่งย่อมส่งผลให้โถสุขภัณฑ์กดไม่ลงได้เช่นกัน จึงควรหมั่นตรวจสอบอยู่เป็นประจำ


 
6 วิธีแก้โถสุขภัณฑ์กดไม่ลง

เมื่อได้ทราบถึงต้นเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นกับสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ที่ส่งผลให้ชักโครกกดไม่ลงกันไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ต่อให้พยายามป้องกันตั้งแต่ต้นเหตุอย่างรอบคอบเท่าไร ก็อาจเกิดปัญหาขึ้นได้อยู่ดี แต่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลใจไป เพราะเรามี 6 วิธีแก้โถสุขภัณฑ์กดไม่ลงมาแนะนำ ดังต่อไปนี้

    ใช้ปั๊มลูกสูบ: อุปกรณ์ที่นิยมที่สุดในการกำจัดสิ่งอุดตันในชักโครกคือปั๊มลูกสูบ สำหรับวิธีการใช้งาน ก็เพียงเติมน้ำลงในโถสุขภัณฑ์ให้เพียงพอเพื่อให้ลูกสูบสามารถสร้างแรงดูดได้ จากนั้นวางลูกสูบไว้เหนือรูระบายน้ำ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดครอบรูให้สนิท ตามด้วยดันลงและดึงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งจนกว่าสิ่งอุดตันจะคลายออก

    ใช้น้ำร้อนกับน้ำยาล้างจาน: ถ้าหากใช้ปั๊มลูกสูบแล้วไม่ได้ผล อีกหนึ่งวิธีคือให้ลองใช้น้ำร้อนกับน้ำยาล้างจานเพื่อล้างสิ่งอุดตัน โดยเทน้ำร้อน 2-3 ถ้วยลงในโถสุขภัณฑ์ จากนั้นเติมน้ำยาล้างจานในปริมาณที่พอเหมาะ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที โดยน้ำร้อนและน้ำยาล้างจานมีฤทธิ์ในการชำระล้างคราบฝังแน่น จากนั้นใช้ปั๊มลูกสูบเพื่อพยายามคลายการอุดตันภายในโถชักโครก



    ใช้สว่านชักโครก: สว่านชักโครกเป็นสายยาวที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งใช้เพื่อล้างสิ่งอุดตันในชักโครก โดยวิธีการใช้คือให้สอดสายเข้าไปในชักโครก ดันลงท่อระบายน้ำจนกว่าจะถึงจุดอุดตัน จากนั้นหมุนด้ามสว่านไปตามทิศทางตามเข็มนาฬิกาเพื่อสลายสิ่งอุดตัน

    ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู: อีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยขจัดสิ่งอุดตันในชักโครกคือการใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู โดยให้เทเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวงลงไป จากนั้นเติมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นใช้ปั๊มลูกสูบดันเข้าไปเพื่อคลายการอุดตัน

    ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญ: หากวิธีการข้างต้นไม่ได้ผล ก็ถึงเวลาที่ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างมืออาชีพ เนื่องจากพวกเขาจะมีเครื่องมือและความเชี่ยวชาญในการขจัดสิ่งอุดตันในโถสุขภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถระบุสาเหตุของการอุดตันและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคตได้อีกด้วย



    เปลี่ยนโถสุขภัณฑ์: สำหรับวิธีสุดท้ายถึงแม้จะต้องลงทุนมากที่สุด แต่ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุดเช่นกัน นั่นคือการเปลี่ยนมาใช้โถสุขภัณฑ์ที่มีระบบการชำระล้างแบบ TORNADO FLUSH ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วยป้องกันการอุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากถูกคิดค้นและพัฒนามาอย่างยาวนาน เพื่อให้ทำความสะอาดได้หมดจด โดยใช้น้ำในปริมาณน้อย รวมไปถึงทำงานควบคู่กับโถสุขภัณฑ์แบบไร้ขอบ RIMLESS จึงช่วยลดมุมอับ ซึ่งเป็น 1 ในสาเหตุหลักที่คราบสกปรกมักเกาะติดอยู่ด้านในชักโครก นอกจากนี้ หากเลือกสุขภัณฑ์ที่มีสารเคลือบ CEFIONTECT จะช่วยทำหน้าที่เคลือบพื้นผิวเซรามิกให้มีความเรียบลื่น ช่วยให้เวลากดชำระล้างสิ่งสกปรกจะหลุดออกไปได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากเลือกใช้เป็นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ หรือโถสุขภัณฑ์อัจฉริยะ ก็จะทำให้ไม่จำเป็นต้องมีฟลัชวาล์ว หรือปุ่มกดชำระที่โถส้วม เนื่องจากเป็นระบบอัตโนมัติภายในตัว สามารถชำระล้างได้เองหลังจากการใช้งานอุปกรณ์สุขภัณฑ์ หรือกดชำระจากรีโมทคอนโทรล ช่วยลดปัญหาฟลัชวาล์วชำรุดได้
36
พูดคุยทั่วไป / ออมเงินอย่างไรให้เหมาะกับวัยทำงานมือใหม่
« กระทู้ล่าสุด โดย pitoon เมื่อ พฤศจิกายน 29, 2024, 10:41:14 AM »

เงินเดือน 20,000 บาท มีเงินเก็บ 2,000 บาท ถือว่าน้อยไหมคะ ?
เป็นคำถามยอดฮิตที่มักจะเห็นตามกระทู้เว็บบอร์ด เพราะใครๆ ต่างก็มีความฝันที่จะมีเงินเก็บก้อนโต เอาไว้ซื้อรถ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโด เป็นทรัพย์สินให้ตัวเอง หรือบางคนก็อยากมีเงินเก็บเอาไว้ให้อุ่นใจในสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวย ไหนจะต้องคอยกังวลเรื่องเหตุฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่รู้ว่าจะต้องหยิบเอาเงินสำรองออกมาใช้เมื่อไหร่ ถ้าวางแผนการออมเงินไม่ดี มีสิทธิ์กระเป๋าฉีกแน่นอน



     แต่การจะเก็บออมในช่วงที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ ด้วยฐานเงินเดือนที่ไม่มากนัก โบนัสก็ยังไม่แน่นอน คงจะเป็นเรื่องยาก อย่าเพิ่งท้อกันไปเสียก่อน เพราะทำยากก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้

วิธีการออมเงินให้เหมาะกับวัยทำงานมือใหม่
     วันนี้เราจะขอเสนอ วิธีการออมเงินให้เหมาะกับวัยทำงานมือใหม่ เคล็ดลับง่ายๆ ที่จะทำให้โอกาสการเป็นเศรษฐีอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมประกันควบการลงทุน

ออมเงิน 10% ของรายได้
     ถึงแม้ว่าจะ ออมน้อย แต่อย่างน้อยก็ยัง ออมนะ เริ่มต้นกำหนดเป้าหมายในการออมแบบไม่หักโหม ด้วยการคิดเป็น 10% ของรายได้ เช่น หากคุณมีเงินเดือน 25,000 บาท เก็บออม 10% ก็จะเท่ากับ 2,500 บาท และต้องรีบ
ออมก่อนใช้ นั่นก็คือออมเงินทันทีที่ได้รับมา เพราะการ ใช้ก่อนออม หากไม่หักห้ามใจให้ดี ก็มีสิทธิ์ใช้เงินเพลินจนไม่เหลือเก็บแน่นอน

สร้างวินัยในการใช้เงิน
     การมีวินัยเป็นนิสัยพื้นฐานของคนมีเงินเก็บ เมื่อคุณตั้งใจแน่วแน่ที่จะเก็บเงินให้ได้สักก้อน คุณจะต้องกำหนดกฎเกณฑ์ในการใช้เงิน เช่น หากรู้ตัวว่าเป็นคนใช้เงินเก่งต้องกำหนดจำนวนเงินที่ใช้ได้ในแต่ละวัน ห้ามใช้เกินเด็ดขาด หรือบางคนที่เป็นสายแข็งหน่อย ก็อาจจะออมเงินเท่ากับจำนวนที่ใช้จ่ายไปในแต่ละครั้ง ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยควบคุมการใช้เงินกับสิ่งไม่จำเป็น และทำให้มีเงินออมเพิ่มมาแบบไม่รู้ตัวอีกด้วย



ซื้อกองทุนหรือสลาก
     สำหรับคนที่ไม่ต้องการจะเก็บออมจากเงินเดือนอย่างเดียว ก็อาจเลือกวิธีการซื้อกองทุนหรือสลาก ซึ่งถือเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่งที่อาจได้รับผลตอบแทนก้อนโต แต่คุณจะต้องศึกษาถึงความเสี่ยง และวางแผนในการจัดสรรรายได้มาลงทุนให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเป็นภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต

เก็บเงินด้วยการซื้อประกันออมทรัพย์
     ประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ คือ ประกันรูปแบบหนึ่งที่ผู้ซื้อกรรมธรรม์จะได้รับทั้งความคุ้มครอง และ สามารถออมเงินไปในตัว โดยจะได้รับเงินก้อนเมื่อถึงระยะเวลาที่ได้กำหนดไว้ จึงถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการออมเงินสำหรับผู้ที่ฉลาดเลือก เพราะได้ผลประโยชน์แบบยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว

แต่จะเลือกซื้อประกันออมทรัพย์อย่างไรให้เหมาะสมกับวัยทำงานมือใหม่ บอกเลยว่าพิจารณาง่ายๆ โดยการเลือกแผนประกันออมทรัพย์ที่เบี้ยไม่แพง แต่ได้รับเงินคืนในอัตราที่คุ้มค่า สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบการใช้จ่ายของคุณ ไม่ว่าจะออมแบบระยะสั้น 3 ปี  5 ปี 10 ปี หรือ ออมยาวๆ 20 ปี ก็กำหนดเองได้เช่นกัน


37
พูดคุยทั่วไป / สุขภาพที่ดี
« กระทู้ล่าสุด โดย mongkeydyoyo เมื่อ พฤศจิกายน 07, 2024, 03:53:03 PM »
สุขภาพที่ดีเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการมีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคมปัจจุบัน การดูแลสุขภาพที่ดีไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการรักษาโรคและการออกกำลังกายเพื่อความแข็งแรงของร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาสุขภาพจิตการสร้างความสุขในชีวิต และการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น การมี สุขภาพที่ดี ในสังคมปัจจุบันไม่ได้หมายถึงการรักษาโรคและป้องกันการติดเชื้อเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการรับรู้ถึงสุขภาพจิตและความสมดุลทางจิตใจการดูแลรักษาภาวะในด้านทั้งร่างกายและจิตใจจึงเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาชีวิตที่มีคุณภาพและมีความสุขในสังคมปัจจุบัน การสร้างสังคมที่มีสุขภาพที่ดีนั้นต้องมีการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนของสังคม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย การส่งเสริมการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ หรือการสนับสนุนให้มีการพัฒนาทักษะด้านสุขภาพจิตและการปรับตัวในชีวิตประจำวัน ทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างสังคมที่มีสุขภาพที่ดีและมีความสุขในกันและกัน
38



เจาะลึกวิธีติดตั้งสุขภัณฑ์อย่างถูกหลัก ทั้งการเตรียมระบบสุขาภิบาล ติดตั้งวาล์วเปิด-ปิดน้ำ ติดตั้งโถชักโครกและชุดอุปกรณ์ถังพักน้ำ ที่คนกำลังทำบ้านต้องรู้

ห้องน้ำ พื้นที่สำคัญที่ไม่ว่าบ้านไหนก็ต้องมี และ สุขภัณฑ์ห้องน้ำ ก็เป็นอุปกรณ์ในห้องน้ำที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ สำหรับผู้ที่กำลังรีโนเวทบ้านหรือสร้างบ้านใหม่ ก่อนจะติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ จำเป็นจะต้องเตรียมตัวอย่างไร รวมถึงควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีติดตั้งสุขภัณฑ์เบื้องต้นมากน้อยแค่ไหน บทความนี้สรุปมาให้อย่างครบถ้วนทุกประเด็น ติดตามกันได้เลย

การเตรียมตัวก่อนติดตั้งสุขภัณฑ์
ทุกคนคงทราบกันดีว่าการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องน้ำนั้น ย่อมต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมพื้นที่ให้พร้อมไม่แพ้พื้นที่อื่น ๆ ในบ้าน เพื่อให้การติดตั้งระบบน้ำและสุขภัณฑ์ทุกชิ้นถูกต้องตรงตามมาตรฐาน และมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน ทั้งยังจะส่งผลต่อการใช้งานที่ยาวนาน โดยก่อนการติดตั้งอุปกรณ์ห้องน้ำทุกประเภท ต้องเตรียมตัวให้พร้อมด้วย 5 ขั้นตอนเหล่านี้



1. เตรียมงานโครงสร้างให้สมบูรณ์
อันดับแรก ไม่ว่าจะทำห้องน้ำใหม่หรือรีโนเวทห้องน้ำเดิม ต้องเริ่มจากงานโครงสร้างที่แข็งแรง วางแปลนให้ชัดเจนว่าห้องน้ำของคุณมีขนาดกี่ตารางเมตร สุขภัณฑ์แต่ละชิ้นจะติดตั้งไว้ที่ตำแหน่งใด และแบ่งโซนเปียกโซนแห้งให้ชัดเจน เพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน หรือหากคุณต้องการผนังกั้นหรือติดตั้งอ่างอาบน้ำ ก็สามารถวางแผนได้ตั้งแต่ขั้นตอนนี้เลย

2. เลือกกระเบื้องพื้นและผนัง
เมื่อโครงสร้างพร้อมแล้ว ลำดับถัดมาคือการเลือกกระเบื้องให้เหมาะกับการใช้งาน โดยกระเบื้องสำหรับปูพื้นห้องน้ำควรมีค่าการดูดซึมน้ำต่ำ และมีค่ากันลื่นหรือค่า R ขั้นต่ำอยู่ที่ R10 เพื่อป้องกันพื้นลื่นเกินไปจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ส่วนกระเบื้องผนังก็สามารถเลือกที่สีสันและลวดลายเข้ากับกระเบื้องปูพื้นได้เลย
           
3. วาง 3 ระบบสำคัญให้ได้มาตรฐาน
นอกจากงานโครงสร้างแล้ว งานระบบก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน สำหรับ 3 ระบบสำคัญที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการก่อสร้างห้องน้ำ ได้แก่

* ระบบระบายอากาศ: ห้องน้ำควรระบายอากาศได้ดี เพื่อลดปัญหาความอับชื้นและป้องกันการสะสมของเชื้อโรค โดยสามารถทำได้ทั้งการติดตั้งหน้าต่างและการติดตั้งพัดลมระบายอากาศโดยเฉพาะ

* ระบบประปา: ถือเป็นระบบที่สำคัญที่สุดในห้องน้ำ จึงควรติดตั้งให้ได้มาตรฐาน ทั้งปั๊มน้ำ ถังเก็บน้ำ ท่อน้ำดี ท่อระบายน้ำ และท่อน้ำทิ้ง ป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมหรือน้ำไม่ไหลตามมาในภายหลัง

* ระบบไฟฟ้า: อย่าลืมเตรียมระบบไฟฟ้าเอาไว้สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็น เช่น สุขภัณฑ์อัจฉริยะ เครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม ติดตั้งเต้าปลั๊กไฟในโซนแห้ง เตรียมสายดินให้พร้อม รวมถึงหากเป็นปลั๊กที่อยู่บริเวณด้านล่างใกล้กับพื้นห้องน้ำ ควรติดตั้งให้สูงห่างจากพื้นอย่างน้อย 30 ซม. และควรมีฝาพลาสติกครอบปลั๊กไฟ ช่วยป้องกันน้ำกระเซ็นในขณะที่ทำความสะอาดห้องน้ำ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน ห้องน้ำผู้สูงอายุ


         
4. เลือกสุขภัณฑ์ที่ตอบโจทย์
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกสุขภัณฑ์ มีอยู่หลากหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของสุขภัณฑ์ ขนาด สี ระบบชำระล้าง และดีไซน์ เบื้องต้นแนะนำให้เลือกขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ห้องน้ำ ความสูงเหมาะกับผู้ใช้งาน สีและดีไซน์เข้ากับกระเบื้อง รวมถึงคอนเซปต์โดยรวมของบ้านด้วย หรือหากเป็นผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี นวัตกรรมล้ำสมัย ในด้านสุขอนามัยและช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานห้องน้ำ สามารถเลือกใช้เป็นสุขภัณฑ์อัตโนมัติ หรือสุขภัณฑ์ที่มาพร้อมฝารองนั่งอัตโนมัติ ก็จะช่วยให้คุณมีสุขภาวะที่ดีมากยิ่งขึ้น

5. ใช้บริการช่างก่อสร้างและผู้รับเหมาที่น่าเชื่อถือ
อยากแน่ใจว่าห้องน้ำของคุณจะสวยงาม ใช้งานได้ตอบโจทย์ อย่าลืมเลือกใช้ช่างก่อสร้างและผู้รับเหมาที่มีความสามารถ เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง วางระบบ และติดตั้งอุปกรณ์สุขภัณฑ์ อย่างแท้จริง เพียงเท่านี้ ขั้นตอนการเตรียมตัวติดตั้งระบบสุขภัณฑ์ของคุณก็จะสมบูรณ์แบบแล้ว

39
พูดคุยทั่วไป / ตรวจสุขภาพประจำปี จำเป็นอย่างไร
« กระทู้ล่าสุด โดย pitoon เมื่อ พฤศจิกายน 04, 2024, 05:21:41 PM »
ตรวจสุขภาพประจำปี จำเป็นอย่างไร


หลายคนมักละเลยการตรวจสุขภาพประจำปีเพราะรู้สึกว่าไม่สำคัญ เพราะส่วนใหญ่มักจะรอให้เจ็บหรือป่วยแล้วค่อยมาโรงพยาบาล ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นมักพบอีกทีเมื่อมีอาการหนัก หรือเรื้อรัง ซึ่งยากต่อการรักษาไปเสียแล้ว นั่นเป็นเพราะว่าเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับการตรวจสุขภาพร่างกายนั่นเอง

ข้อดีของการตรวจสุขภาพประจำปี
 
หนึ่งในขั้นตอนที่ทำสำคัญที่สุดของการซื้อประกันสุขภาพ คือ การเลือกประเภทของประกันชีวิต ซึ่งปัจจุบันประกันชีวิตมีหลากหลายประเภท ทั้งด้านความคุ้มครองและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกประเภทประกันชีวิตที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ และรายได้หลักของเรา โดยประกันชีวิตนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
 
1. ป้องกันหรือค้นหาโรคและภาวะผิดปกติในร่างกาย
เพราะบางโรคเราสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ การที่เราตรวจเจอจะทำให้เราได้รับการรักษาที่เหมาะสม และหาทางป้องกันไม่ให้โรคนั้นลุกลามหรือไปถึงขั้นที่รุนแรงได้ หรือแม้จะไม่ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคอะไร แต่มีภาวะเสี่ยงที่จะเกิดโรคนั้นๆ เราก็สามารถหาวิธีป้องกันหรือลดปัจจัยที่จะทำให้เกิดได้อีกด้วย

2. จุดเริ่มต้นการต่อสู้กับโรคร้ายที่ดีที่สุด
หลายคนไม่ตรวจสุขภาพประจำปีเพราะกลัวการตรวจเจอโรคต่างๆ ซึ่งความจริงนั้นการตรวจเจอโรคร้ายต่างๆ นั้นยิ่งเร็วยิ่งดี เพราะจะช่วยให้เราวางแผนการรักษาที่เหมาะสมได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งยังช่วยให้เราวางแผนในการดูแลตนเองได้อย่างถูกต้องเหมาะสมด้วย ทำประกันมะเร็ง

3. ลดอัตราการป่วย และเสียชีวิต
อีกข้อดีของการตรวจสุขภาพประจำปี คือการที่เราจะทราบสภาวะปัจจุบันของร่างกายได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปสู่การดูแลสุขภาพที่เหมาะสม ทำให้ช่วยลดอัตราการเจ็บป่วย และเสียชีวิตได้นั่นเอง



ควรเริ่มตรวจสุขภาพประจำปีตอนอายุเท่าไหร่?
โดยปกติแล้วการตรวจสุขภาพประจำปีควรเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป แต่ถ้ามีอาการที่ผิดปกติหรือน่าสงสัยก็สามารถเข้ารับการตรวจก่อนอายุ 20 ปี โดยในแต่ละช่วงอายุนั้นก็จะมีสิ่งที่ควรตรวจแตกต่างกันไป เช่น
ผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และเคยมีเพศสัมพันธ์ควรเข้ารับการตรวจมะเร็งปากมดลูก
ผู้ชายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปควรตรวจมะเร็งต่อมลูกหมากปีละ 1 ครั้ง
ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปควรตรวจการติดเชื้อทางเดินอาหาร และตรวจช่องท้องเพื่อหาความผิดปกติของถุงน้ำดี ตับ และไต
ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปต้องตรวจสมรรถภาพการทำงานของหัวใจ และความแข็งแรงของกระดูก เป็นต้น



การมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและไร้โรคภัยนั้นถือเป็นอีกข้อที่สำคัญในชีวิต ซึ่งนอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีที่จะช่วยให้เราวางแผนและดูแลเรื่องสุขภาพได้แล้วนั้น การทำประกันสุขภาพ ก็เป็นอีกตัวช่วยที่น่าสนใจเพราะเป็นอีกตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถอุ่นใจได้แม้ในวันที่เจ็บป่วย เพราะมีความคุ้มครองที่ทั้งคุ้มค่าและครอบคลุม นอกจากนี้เบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย การดูแลสุขภาพและวางแผนการดูแลสุขภาพที่ถูกต้องเหมาะสมจึงสำคัญ เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าร่างกายที่อยู่กับเราทุกวันนั้นจะสมบูรณ์แข็งแรงได้แบบนี้ไปได้ถึงเมื่อไร
40
พูดคุยทั่วไป / วิธีเลือกก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์
« กระทู้ล่าสุด โดย pitoon เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2024, 04:59:28 PM »
รูปแบบของก๊อกน้ำฝักบัว วัสดุที่นิยมใช้ทำก๊อกน้ำ คือ สแตนเลสเนื่องจากมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และปลอดภัยจากสารตกค้างประเภทโลหะหนัก ซึ่งก๊อกน้ำฝักบัวมีทั้งหมด 2 ประเภท สามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ได้แก่
ก๊อกเดี่ยว คือ ก๊อกน้ำที่สามารถเปิดใช้น้ำเย็นได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ก๊อกผสม คือ ก๊อกน้ำที่สามารถเปิดใช้ได้ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น โดยมีทั้งแบบก้านโยกซ้าย - ขวาซึ่งมีสัญลักษณ์บอกน้ำร้อนและน้ำเย็นอยู่ที่ตัวก๊อก และก๊อกที่แยกจุดเปิดน้ำร้อนและน้ำเย็นเป็นสองฝั่งเพื่อปรับระดับความร้อน – เย็นตามความต้องการ ซึ่งการติดตั้งมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นก๊อกที่ติดตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์, ก๊อกที่ติดตั้งอยู่กับเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และก๊อกที่ติดตั้งออกจากผนัง



นวัตกรรมก๊อกน้ำฝักบัวที่ใช้งานง่าย สะดวกสบาย และทนทาน
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่นิยมใช้ก๊อกน้ำและก๊อกน้ำฝักบัวแบบผสมคือสามารถใช้ได้ทั้งน้ำร้อน และน้ำเย็น TOTO จึงได้พัฒนานวัตกรรม COMFORT GLIDE โดยปรับปรุงและพัฒนาแผ่นเซรามิกที่อยู่ในวาล์ว ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญภายในก๊อกอ่างล้างหน้าที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย ควบคุมการปล่อยน้ำได้ง่ายดายกว่าเดิมแค่ขยับก้านโยกเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ก๊อกน้ำที่มาพร้อมระบบ COMFORT GLIDE ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และมีความเสถียรของแรงในการขยับก้านโยกต่อครั้งได้ดีกว่าก๊อกน้ำทั่ว ๆ ไปอีกด้วย


รูปแบบการติดตั้งก๊อกน้ำฝักบัวตามการใช้งาน
นอกจากรูปแบบก๊อกน้ำและฝักบัวที่เหมาะกับการใช้งานแล้ว รูปแบบการติดตั้งก๊อกน้ำตามการใช้งานก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง เนื่องจากต้องเลือกการติดตั้งให้เหมาะสมกับแบบห้องน้ำ โดยรูปแบบการติดตั้งก๊อกมีทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่

1. ก๊อกน้ำและฝักบัวแบบฝังผนัง
เหมาะสำหรับก๊อกอ่างล้างหน้า อ่างล้างหน้า และฝักบัว เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการติดตั้งได้ เหมาะสำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก เพราะช่วยประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งฝักบัวในห้องน้ำ และยังเลือกติดตั้งคู่กับสุขภัณฑ์อื่น ๆ ได้ตามความต้องการ

2. ก๊อกน้ำและฝักบัวแบบตั้งพื้น
เหมาะสำหรับการใช้งานกับอ่างอาบน้ำ มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับห้องน้ำที่ต้องการเน้นเรื่องดีไซน์ในการออกแบบ สำหรับก๊อกน้ำแบบตั้งพื้นจาก TOTO ถูกออกแบบให้เลือกจับคู่กับอ่างอาบน้ำแบบต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว เหมาะกับการตกแต่งทุกสไตล์

3. ก๊อกน้ำแบบตั้งเคาน์เตอร์
เหมาะกับการเป็นก๊อกอ่างล้างหน้า ทั้งอ่างล้างหน้าแบบวาง หรืออ่างล้างหน้าฝังบนเคาน์เตอร์ที่มีช่องสำหรับติดตั้งก๊อกน้ำ ข้อดีคือสามารถบำรุงรักษาได้สะดวก



วิธีเลือกก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์
ปัจจุบันก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์ หรือ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ นั้นได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เนื่องจากสะดวกสบาย และช่วยหลีกเลี่ยงการสัมผัสเชื้อโรคได้ดีกว่าก๊อกซิงค์ปกติที่เราต้องเอามือไปสัมผัสเพื่อเปิด - ปิดก๊อกน้ำ โดยวิธีการเลือกก๊อกเซ็นเซอร์มี 4 วิธีหลัก ๆ ได้แก่

1. สำรวจระบบน้ำและไฟฟ้าสำหรับติดตั้งก๊อกน้ำ
ก่อนเลือกซื้อก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์ควรสำรวจระบบไฟฟ้าและระบบประปาภายในบ้านเสียก่อน เนื่องจากก๊อกแต่ละรุ่นนั้นมีเงื่อนไขการติดตั้งที่แตกต่างกันซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้งานอีกด้วย

2. รูปแบบการติดตั้งก๊อก
โดยปกติก๊อกระบบเซ็นเซอร์นั้นมีทั้งแบบใช้ไฟฟ้าในบ้านและใช้แบตเตอรี่ในตัว แต่ด้วยนวัตกรรม SELF POWER จาก TOTO ที่ได้พัฒนาก๊อกระบบเซ็นเซอร์ที่ไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า แต่ใช้พลังงานจากการไหลของน้ำทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่ให้ตัวก๊อกทำงาน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน และลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา

3. เลือกจากดีไซน์และการตกแต่งห้องน้ำ
การเลือกซื้อก๊อกน้ำระบบเซ็นเซอร์ถือเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง จึงควรเลือกดีไซน์ก๊อกที่ถูกใจและเข้ากับสไตล์ห้องน้ำที่สุดเพื่อให้คุ้มค่ากับการลงทุน และอย่าลืมทดลองใช้ก๊อกเพื่อเช็กประสิทธิภาพว่าใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่

4. ฟังก์ชันการใช้งานของก๊อกเซ็นเซอร์
สำหรับฟังก์ชันของก๊อกเซ็นเซอร์คุณภาพดีที่ควรพิจารณา คือ ก๊อกที่ใช้ควรจะปล่อยน้ำออกมาทันทีเมื่อยื่นมือเข้าไปใกล้ระยะ และปิดน้ำทันทีเมื่อนำมือออกจากระยะเซ็นเซอร์ นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนอุณหภูมิร้อน - เย็นได้โดยไม่ต้องสัมผัสกับก๊อกน้ำอีกด้วย


หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 10