กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10
21
แบบห้องน้ำสไตล์มินิมอล (Minimal Style) เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยแนวคิด "น้อยแต่มาก (Less is More)" ที่เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา ความโปร่งโล่ง และฟังก์ชันการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ห้องน้ำกลายเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง

1. คุมโทนสีให้ "สะอาดตา" ด้วยสีหลักไม่เกิน 3 สี
หัวใจของมินิมอลคือสีที่เรียบง่ายและเป็นกลาง เพื่อสร้างความรู้สึกสงบและผ่อนคลาย
สีหลัก: เน้นใช้สีโทนสว่างเป็นหลัก เช่น สีขาว (เป็นสีที่ทำให้ห้องน้ำดูกว้างที่สุด), สีครีม หรือ สีเทาอ่อน
สีรอง/สีตัด: สามารถใช้ สีดำ หรือ สีน้ำตาลอ่อน (ลายไม้ธรรมชาติ) เป็นสีตัดในรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ก๊อกน้ำสีดำ, ขอบกระจก, หรือเฟอร์นิเจอร์ลายไม้ เพื่อเพิ่มความอบอุ่นและไม่ทำให้ห้องดูจืดชืดจนเกินไป
เคล็ดลับสไตล์มูจิ (Muji Style): หากต้องการให้ห้องน้ำมินิมอลดูอบอุ่นสไตล์มูจิ ให้เพิ่มวัสดุ ลายไม้โทนอ่อน เข้าไป เช่น เคาน์เตอร์ไม้ หรือกล่องเก็บของไม้



2. เลือก "สุขภัณฑ์" รูปทรงเรียบง่ายและเป็นเรขาคณิต
สุขภัณฑ์ คือจุดศูนย์กลางของห้องน้ำ การเลือกดีไซน์จึงต้องสอดคล้องกับสไตล์มินิมอล
โถสุขภัณฑ์ (Toilet): ควรเลือกแบบ ชิ้นเดียว (One-Piece) ที่มีรูปทรงโค้งมนหรือเหลี่ยมที่เรียบง่าย เพราะไม่มีรอยต่อ ทำให้ทำความสะอาดง่ายและดูคลีน หรือเลือกแบบ แขวนผนัง (Wall-Hung) เพื่อซ่อนถังพักน้ำและเผยให้เห็นพื้นที่พื้นห้องน้ำ ทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งขึ้น
อ่างล้างหน้า (Wash Basin): เลือกอ่างแบบ แขวนผนัง หรือ อ่างวางบนเคาน์เตอร์ ที่มีรูปทรงวงกลมหรือสี่เหลี่ยมที่ชัดเจน หลีกเลี่ยงอ่างที่มีลวดลายเยอะ

3. สร้างภาพลวงตาด้วย "กระจก" และ "แสงสว่าง"
เนื่องจากห้องน้ำสไตล์มินิมอลส่วนใหญ่มักมีพื้นที่จำกัด เทคนิคนี้จึงสำคัญมากในการทำให้ห้องดูกว้างขึ้น
กระจกเงาบานใหญ่: ติดตั้งกระจกเงาแบบไร้ขอบ หรือขอบเรียบง่าย เต็มผนัง บริเวณอ่างล้างหน้า เพื่อสะท้อนพื้นที่ ทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นทันตาเห็น
แสง Warm White: ใช้แสงไฟสีขาวนวล หรือ Warm White ในการให้แสงสว่าง เพื่อสร้างบรรยากาศที่นุ่มนวลและผ่อนคลาย หลีกเลี่ยงแสงสีฉูดฉาด และควรมีแสงสว่างจากธรรมชาติเข้ามาในห้องให้มากที่สุด

4. จัดเก็บของใช้แบบ "ซ่อน" และใช้ "ชั้นลอย"
หัวใจสำคัญที่สุดของมินิมอลคือ ความโล่งบนเคาน์เตอร์ ของใช้ทั้งหมดจะต้องถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ
เน้นตู้บิลท์อิน (Built-in) แบบซ่อน: ติดตั้งตู้เก็บของแบบซ่อนในผนัง หรือใช้ตู้เคาน์เตอร์ที่มีหน้าบานปิดเรียบ ไม่มีมือจับ เพื่อเก็บอุปกรณ์และของใช้ส่วนตัวทั้งหมด
ชั้นวางของแบบลอยตัว: หากจำเป็นต้องวางของ ให้เลือกใช้ชั้นวางของแบบ ลอยตัว (Floating Shelf) ที่ทำจากไม้หรือวัสดุสีเดียวกับผนัง เพื่อใช้พื้นที่ในแนวตั้งและไม่เกะกะสายตา

การออกแบบ แบบห้องน้ำสไตล์มินิมอล คือการเน้นไปที่การใช้งานที่จำเป็น เลือกใช้วัสดุที่ทนทาน และจัดระเบียบของใช้ให้เป็นที่เป็นทางก็จะได้ห้องน้ำที่สวยงาม สงบ และเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างมีความสุขในทุกวัน


22
ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตนเอง: มะเร็งผิวหนัง (Skin cancer)

มะเร็งผิวหนัง เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง พบได้ตั้งแต่วัยหนุ่มสาว และพบมากขึ้นตามอายุ มักพบบ่อยในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ พบมากเป็นอันดับที่ 8 ของมะเร็งในผู้ชาย และอันดับที่ 9 ของมะเร็งในผู้หญิง

ส่วนใหญ่เป็นมะเร็งชนิดอ่อน ลุกลามช้า ไม่แพร่กระจาย ได้แก่ มะเร็งเซลล์หนังกำพร้าชั้นตื้น (squamous cell carcinoma ซึ่งพบได้น้อยกว่าชนิดอื่น) และมะเร็งเซลล์หนังกำพร้าชั้นฐาน (basal cell carcinoma)

ส่วนน้อยเป็นมะเร็งชนิดร้ายแรง ได้แก่ มะเร็งเซลล์สร้างเม็ดสี (melanoma/malignant melanoma) ซึ่งสามารถแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปทั่วร่างกายได้ หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตภายใน 1 ปี

สาเหตุ

ส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสแสงแดด (แสงอัลตราไวโอเลต) มากเกินเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ การสัมผัสสารก่อมะเร็ง (เช่น สารหนู น้ำมันดิน พารัฟฟิน เรเดียม เป็นต้น) การถูกรังสีเอกซเรย์ในปริมาณสูง การกินสารหนูที่ผสมอยู่ในยาจีน ยาไทย การอักเสบหรือการบาดเจ็บของผิวหนัง โรคผิวหนังอักเสบ (eczema) การสัก แผลเป็นจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก การสูบบุหรี่ การมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เช่น เอดส์) การมีประวัติมะเร็งผิวหนังในครอบครัว


อาการ

มะเร็งหนังกำพร้าชั้นตื้น มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงลักษณะหยุ่น ๆ อาจแตกเป็นแผล เลือดออกง่าย หรือมีลักษณะเป็นปื้นแบนราบ ผิวเป็นขุยหรือตกสะเก็ด มักพบที่ใบหน้า ริมฝีปาก หู คอ มือ หรือแขน

มะเร็งหนังกำพร้าชั้นฐาน มีลักษณะเป็นตุ่มนูนใส ขอบม้วน สีคล้ายขี้ผึ้งหรือไข่มุก อาจแตกเป็นแผล มีเลือดออกง่าย มักพบที่ใบหน้า หู คอ บางรายอาจมีอาการเป็นปื้นแบนราบแข็งติดกับผิวหนัง สีเดียวกับสีผิวหรือสีน้ำตาล มักพบที่หน้าอกหรือหลัง

มะเร็งเซลล์สร้างเม็ดสี มีลักษณะเป็นไฝ ขี้แมลงวัน หรือจุดดำบนผิวหนังที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ เช่น มีสีคล้ำมากขึ้น หรือบางจุดในเม็ดไฝมีสีแตกต่างจากจุดอื่น มีอาการปวดหรือคัน หรือลอกมีเกล็ดขุย มีเลือดหรือน้ำเหลืองไหล มีขนาดโตขึ้น (มากกว่า 6 มม.) มีการกระจายของเม็ดสีไปรอบ ๆ เม็ดไฝ ไฝกลายเป็นแผลหรือมีเลือดออก หรือกลายเป็นก้อนแข็ง ผิวหยาบ

ภาวะแทรกซ้อน

สำหรับมะเร็งเซลล์สร้างเม็ดสี หากปล่อยไว้มักแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ที่พบได้บ่อยคือ ปอด ตับ สมอง ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน อาทิ

    ปอด ทำให้มีอาการเจ็บหน้าอก ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด ภาวะมีน้ำหรือเลือดในช่องเยื่อหุ้มปอด หายใจลำบาก
    ตับ ทำให้เจ็บใต้ชายโครงขวา อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลืองตาเหลือง มีน้ำในท้อง (ท้องมาน)
    สมอง ทำให้ปวดศีรษะมาก อาเจียนมาก เวียนศีรษะ บ้านหมุน เดินเซ แขนขาชาและเป็นอัมพาต ชัก หมดสติ สมองเสื่อม บุคลิกภาพเปลี่ยนไปจากเดิม


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตัดเนื้อเยื่อผิวหนังตรงบริเวณที่เป็นรอยโรคไปตรวจทางห้องปฏิบัติการ (skin biopsy)


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การรักษาด้วยการผ่าตัดรอยโรคออกไป

ในรายที่พบระยะแรกและมีขนาดเล็ก อาจจี้ด้วยความเย็น (cryosurgery)

ถ้าเป็นส่วนผิวอาจใช้แสงเลเซอร์รักษา

ถ้าเป็นที่ติ่งหู หนังตา หรือปลายจมูกอาจใช้รังสีบำบัด (ฉายรังสี)

ถ้าแผลลึกอาจต้องทำการปลูกถ่ายผิวหนัง

ในรายที่เป็นมะเร็งเซลล์สร้างเม็ดสี หากมีการแพร่กระจายไปแล้ว ก็จะให้รังสีบำบัดร่วมกับการให้ยารักษามะเร็ง เช่น การให้ยารักษาแบบจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง (targeted therapy), อิมมูนบำบัด (immunotheraphy, เคมีบำบัด) เพื่อชะลอการเจริญของมะเร็ง บรรเทาอาการของโรค และทำให้อยู่รอดนานขึ้น

ผลการรักษา หากได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม มักจะได้ผลดี และหายขาดได้

บางรายในเวลาต่อมาอาจมีมะเร็งกำเริบได้อีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งเซลล์สร้างเม็ดสี แพทย์จะนัดผู้ป่วยมาตรวจเช็กอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีแผลเรื้อรังที่ผิวหนังนานเกิน 2-3 สัปดาห์ ผิวหนังเป็นปื้นแบนราบ ผิวเป็นขุยหรือตกสะเก็ด หรือเป็นปื้นแบนราบแข็งติดกับผิวหนัง สีเดียวกับสีผิวหรือสีน้ำตาล เป็นตุ่มนูนใส ขอบม้วน สีคล้ายขี้ผึ้งหรือไข่มุก หรือมีหูด ไฝ ปาน หรือแผลเป็น ที่มีการเปลี่ยนแปลง (เช่น สีเปลี่ยน โตเร็ว แตกเป็นแผล มีเลือดออก เป็นต้น) ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นมะเร็งผิวหนัง ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด
    หลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีนที่มีไขมันน้อย (เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง)
    นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และหาทางผ่อนคลายความเครียด
    ออกกำลังกายและทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งงานอดิเรกที่ชอบ และงานจิตอาสา เท่าที่ร่างกายจะอำนวย
    ทำสมาธิ เจริญสติ หรือสวดมนต์ภาวนาตามหลักศาสนาที่นับถือ
    ถ้ามีโอกาสควรหาทางเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อน หรือกลุ่มมิตรภาพบำบัด
    ผู้ป่วยและญาติควรหาทางเสริมสร้างกำลังใจให้ผู้ป่วย ยอมรับความจริง และใช้ชีวิตในปัจจุบันให้ดีและมีคุณค่าที่สุด
    ถ้าหากมีเรื่องวิตกกังวลเกี่ยวกับโรคและวิธีบำบัดรักษา รวมทั้งการแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร ยาหม้อ ยาลูกกลอน การนวด ประคบ การฝังเข็ม การล้างพิษ หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการไม่สบายหรืออาการผิดปกติ เช่น มีไข้ อ่อนเพลียมาก หอบเหนื่อย หายใจลำบาก ชัก แขนขาชาหรืออ่อนแรง ซีด มีเลือดออก ปวดท้อง ท้องเดิน อาเจียน เบื่ออาหารมาก  กินไม่ได้ ดื่มน้ำไม่ได้ เป็นต้น
    ขาดยาหรือยาหาย
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินที่บ้าน ถ้ากินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด เวลาออกไปกลางแจ้งควรทายากันแดด สวมหมวก และแว่นตากันแสงอัลตราไวโอเลต
    หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารก่อมะเร็ง และการกินยาจีน ยาไทยที่ผสมสารหนู
    ไม่สูบบุหรี่

ข้อแนะนำ

1. หมั่นตรวจดูผิวหนังทั่วร่างกายเป็นระยะ หากมีอาการเปลี่ยนแปลงผิดสังเกต เช่น หูด ไฝ ขี้แมลงวัน ปาน แผลเป็น ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

2. สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ทำงานอยู่กลางแดด มีประวัติมะเร็งผิวหนังในครอบครัว ควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอย่างน้อยปีละครั้ง

3. ปัจจุบันมีวิธีบำบัดรักษาโรคมะเร็งใหม่ ๆ ที่อาจช่วยให้โรคหายขาดหรือทุเลา หรือช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ผู้ป่วยจึงควรติดต่อรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็ง มีความมานะอดทนต่อผลข้างเคียงของการรักษาที่อาจมีได้ อย่าเปลี่ยนแพทย์ เปลี่ยนโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น หากสนใจจะแสวงหาทางเลือกอื่น (เช่น การใช้สมุนไพร หรือวิธีอื่น ๆ) ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์ และทีมสุขภาพที่ดูแลประจำและรู้จักมักคุ้นกันดี
24
พูดคุยทั่วไป / บัญชีคลินิกทันตกรรม สำหรับคลินิกเปิดใหม่
« กระทู้ล่าสุด โดย Lali เมื่อ ตุลาคม 12, 2025, 09:14:44 PM »



บัญชีคลินิกทันตกรรม สำหรับคลินิกเปิดใหม่
อยากเปิดคลินิกทันตกรรมเป็นของตัวเอง อย่าลืมวางแผนวิธีการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ให้ดีก่อนเปิดกิจการ ซึ่งวันนี้ นรินทร์ทอง ได้นำวิธีการวางแผนทำบัญชีคลินิกทันตกรรม มาแชร์ให้ทุกคนในบทความนี้!

อยากเปิดคลินิกทันตกรรม หาที่ปรึกษาด้าน บัญชี แนะนำ นรินทร์ทองคลิกอ่านที่นี่

การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม


1. กำหนดผังบัญชี (Chart of Accounts) - ด้วยการจัดหมวดหมู่รายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการบันทึกและตรวจสอบ ซึ่งผังบัญชีที่ควรมีสำหรับคลินิกทันตกรรม ได้แก่

  • ต้นทุนสินค้าและบริการ (Cost of Goods Sold - COGS)
  • ค่าใช้จ่าย (Expenses)
  • รายได้ (Revenue)
2. บันทึกรายรับ-รายจ่าย อย่างสม่ำเสมอ- คือการบันทึกข้อมูลอย่างครบถ้วนและสม่ำเสมอ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบัน

  • บันทึกรายรับ

  • บันทึกรายจ่าย
  • การจัดการสต็อก
3. จัดทำรายงานทางการเงิน- เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจทางธุรกิจ
  • งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
  • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)
4. การจัดการภาษี- คลินิกทันตกรรมต้องมีการจัดการภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ภาษีเงินได้
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

ทำความเข้าใจรายละเอียด การวางแผนทำ บัญชีคลินิกทันตกรรมเพิ่มเติมคลิก

โครงสร้างธุรกิจบัญชีคลินิกทันตกรรม


1. ต้นทุนของบัญชีคลินิกทันตกรรม - คือ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการให้บริการรักษาแต่ละเคส ซึ่งเป็นต้นทุนที่ผันแปรตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ ตัวอย่างเช่น

  • ค่าวัสดุและอุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโดยตรง
  • ค่าใช้จ่ายทางห้องปฏิบัติการ (Dental Lab)
  • ค่าคอมมิชชั่นทันตแพทย์
2. ค่าใช้จ่ายบัญชีคลินิกทันตกรรม- คือค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษา แต่จำเป็นต่อการเปิดให้บริการ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
  • ค่าใช้จ่ายคงที่
  • ค่าใช้จ่ายผันแปร
3. รายได้ของบัญชีคลินิกทันตกรรม - มาจากการให้บริการและขายสินค้า ซึ่งควรมีการแยกประเภทรายได้ให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์
  • รายได้ค่ารักษาทางทันตกรรม
  • รายได้จากการขายสินค้า
  • รายได้อื่นๆ

การเก็บเอกสาร


1. หมวด “ข้อมูลกิจการ” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียน และเอกสารการจดทะเบียนบริษัท
  • งบการเงินของปีก่อน
  • ภ.ง.ด.50 / ภ.ง.ด.51 ของปีก่อน
  • ภ.พ.01 , ภ.พ.09 , ภ.พ.20
  • สัญญาต่างๆ


2. หมวด “เอกสารขาย” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ใบสำคัญรับเงิน Receipt Voucher
  • สำเนาใบเสร็จรับเงิน
  • สำเนาใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / ใบกำกับภาษีขาย
  • สำเนาใบลดหนี้ขาย กรณีราคาผิด คืนสินค้า
  • หลักฐานการรับชำระเงิน สำเนาเช็ครับ สลิปการโอน
  • ธุรกิจบริการ สำเนาหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ (ถ้ามี)


3. หมวด “เอกสารซื้อ” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ใบสำคัญจ่าย ต้องมีลายเซ็นผู้รับเงิน
  • ใบแจ้งหนี้ / ใบส่งของ / สำเนาใบกำกับภาษี
  • ต้นฉบับใบเสร็จรับเงิน
  • หลักฐานการจ่ายเงิน สลิปโอนเงิน สำเนาเช็ค
  • หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50ทวิ)
  • สำเนาบัตรประชาชน (กรณีจ้างบุคคล)
  • ใบรับเงินหรือใบแทนใบเสร็จรับเงิน (กรณีผู้ขายไม่ออกใบเสร็จรับเงิน)
  • อื่นๆ เช่น ใบสั่งซื้อ หนังสือจัดจ้าง (ถ้ามี)


4. หมวด “ภาษีขาย” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • สำเนาใบกำกับภาษีขาย
  • รายงานภาษีขาย


5. หมวด “ภาษีซื้อ” ซึ่งประกอบด้วย
  • ต้นฉบับใบกำกับภาษีซื้อ
  • รายงานภาษีซื้อ


6. หมวด “ภาษีถูกหัก ณ ที่จ่าย” เมื่อมีผู้เข้ารับบริการในคลินิกโดยใช้สิทธิ์ประกันสังคม ทางคลินิกจะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 1% ประกันสังคมจะจ่ายค่าบริการให้แก่คลินิก พร้อมให้ต้นฉบับกับสำเนาหนังสือภาษีหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ต้นฉบับเก็บแฟ้มภาษีหัก ณ ที่จ่าย
  • สำเนาชุดใบสำคัญรับชำระหนี้


7. หมวด “งานภาษี (Tax File)” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เช่น ภ.ง.ด.1 ภ.ง.ด.3 ภ.ง.ด.53
  • สำหรับคลินิกทันตกรรมที่จดทะเบียน VAT ต้องเก็บ ภ.พ.30
  • รายงานภาษีซื้อและรายงานภาษีขาย ภ.ง.ด.50 และ ภ.ง.ด.51 ของปีปัจจุบัน
  • ประกันสังคมและกองทุนทดแทนต่างๆ


8. หมวด “เงินเดือนและประกันสังคม” ซึ่งประกอบไปด้วย
  • แบบยื่นภาษี ภ.ง.ด.1
  • แบบนำส่งเงินสมทบประกันสังคม (สปส.1-10)
  • ตารางสรุปการจ่ายเงินเดือน



9. หมวด “ทะเบียนสินทรัพย์” สินทรัพย์จะต้องมีอายุการใช้งานเกิน 1 ปี และมีมูลค่าขั้นต่ำ 1,000 บาทขึ้นไป หรือตามนโยบายของคลินิก ซึ่งประกอบไปด้วย
  • เอกสารการซื้อ ใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษี
  • ทะเบียนทรัพย์สิน

อ่านตัวอย่างเคส การบันทึกบัญชีคลินิกทันตกรรมเพิ่มเติมคลิก

จัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม อย่างมืออาชีพ ป้องกันปัญหาภาษีในอนาคต เลือก นรินทร์ทอง!
อันที่จริงแล้วการจัดทำ บัญชีคลินิกทันตกรรม ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด หากคุณเริ่มต้นจากการวางแผนและบันทึกข้อมูลอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณบริหารคลินิกได้อย่างมั่นคงและมีประสิทธิภาพในระยะยาว ขอแนะนำนรินทร์ทองเป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
25
ย้ายหอพักกับ รถรับจ้างขนย้ายบ้านขอนแก่น ต้องทำอย่างไร ราคาเท่าไหร่?

ย้ายหอพัก เป็นเรื่องที่พบเจอกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น นักศึกษา คนทำงาน หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ทางเลือกที่ช่วยให้การขนย้ายง่ายและรวดเร็วขึ้น นั่นคือการใช้บริการรถรับจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใช้บริการกับขนส่ง ซึ่งในจังหวัดขอนแก่น ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากความสะดวก รวดเร็ว และราคาที่สมเหตุสมผล ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับขั้นตอนการใช้บริการ รวมถึงราคาและข้อดีของการเลือกใช้บริการรถรับจ้าง

ทำไมต้องเลือกใช้ บริการรถรับจ้างขอนแก่น

    ความสะดวกสบาย : ไม่ต้องกังวลเรื่องการหา รถขนของ หรือขนของด้วยตัวเอง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเสียหายหรือเจ็บตัว
    ประหยัดเวลา : ทีมงานมืออาชีพ รถรับจ้างขอนแก่น ช่วยจัดการทุกขั้นตอน ทำให้ประหยัดเวลาในการขนย้าย
    บริการครบวงจร : ตั้งแต่การขนของจากหอพักเดิมไปยังหอพักใหม่ รวมถึงบริการช่วยยกของและจัดเรียงของให้เรียบร้อย
    ราคายุติธรรม : คิดค่าบริการตามระยะทางและปริมาณของที่ขนย้าย ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
    ทีมงานมืออาชีพ : พนักงานมีประสบการณ์ด้านการขนย้าย ทำให้มั่นใจได้ว่าของจะถึงปลายทางอย่างปลอดภัย

ขั้นตอนการใช้บริการรถรับจ้างขอนแก่น


1. ติดต่อสอบถามและจองคิว

ก่อนย้ายหอ ควรติดต่อสอบถามรายละเอียดกับทางขนส่ง ล่วงหน้า โดยสามารถติดต่อผ่านโทรศัพท์ หรือช่องทางออนไลน์ เช่น LINE หรือ Facebook เพื่อแจ้งข้อมูลต่อไปนี้

    วันและเวลาที่ต้องการย้าย
    จุดรับของและจุดหมายปลายทาง
    ขนาดและจำนวนของที่ต้องการขนย้าย
    ประเภทของรถที่ต้องการใช้งาน (รถกระบะ, รถ 6 ล้อ, รถบรรทุกขนาดใหญ่)

การจองคิว รถรับจ้างขอนแก่น ล่วงหน้าช่วยให้มั่นใจได้ว่าในวันที่ขนย้ายจะมีรถพร้อมให้บริการ เพื่อที่จะช่วยให้สามารถวางแผนย้ายของได้ค่ะ


2. ประเมินราคาและตกลงค่าบริการ

หลังจากแจ้งรายละเอียด ทางบริษัทจะทำการประเมินราคา ซึ่งจะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น

    ระยะทาง : จากต้นทางไปปลายทาง
    ปริมาณและขนาด : ยิ่งของเยอะหรือมีขนาดใหญ่ ราคาจะเพิ่มตาม
    ประเภทของรถที่ใช้ : เช่น รถกระบะ รถ 6 ล้อ หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่
    บริการเสริม : เช่น บริการคนช่วยยกของ หรือบริการห่อของกันกระแทก

หลังจากประเมินราคาและตกลงรายละเอียดแล้ว ควรสอบถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมาภายหลัง


3. แพ็กของและเตรียมความพร้อม

เพื่อให้การขนย้ายเป็นไปอย่างราบรื่น ควรเตรียมของและแพ็กของล่วงหน้าดังนี้

    ใช้กล่องหรือถุงที่แข็งแรง เพื่อป้องกันความเสียหาย
    ห่อของที่แตกหักง่าย ด้วยกระดาษหรือพลาสติกกันกระแทก
    เขียนป้ายชื่อ บนกล่องเพื่อให้ง่ายต่อการจัดเรียง
    แยกของมีค่า เช่น เอกสารสำคัญ, เครื่องประดับ หรือของใช้ส่วนตัวไว้กับตัว
    ถอดอุปกรณ์ไฟฟ้า และจัดเรียงให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันความเสียหาย

4. วันขนย้าย

    ตรวจสอบจำนวนและประเภทของที่ต้องขนย้าย
    ช่วยขนของขึ้นรถอย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบ
    ขับรถไปยังปลายทางโดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด
    ช่วยขนของลงและจัดเรียงของตามที่ลูกค้าต้องการ


ราคาค่าบริการแพงหรือไม่?

    รถกระบะขนของ : เริ่มต้นที่ 800-1300 บาท สำหรับระยะทางใกล้ (ในเมืองขอนแก่น)
    รถ 6 ล้อ : เริ่มต้นที่ 2500-3,000 บาท ไว้สำหรับขนของจำนวนมากขึ้น
    บริการขนย้ายพิเศษ : เช่น ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
    บริการเสริม : เช่น บริการคนช่วยยกของ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 300-1000 บาท ต่อคน ขึ้นอยู่กับประเภทรถที่ใช้ขนย้าย

เพื่อความมั่นใจว่าจะได้ราคาที่สมเหตุสมผล ควรเปรียบเทียบราคาหรือสอบถามรายละเอียดค่าบริการเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจใช้บริการค่ะ
ข้อดีของการใช้บริการรถรับจ้างขอนแก่น

✅ สะดวกและรวดเร็ว - ช่วยลดความยุ่งยากในการย้ายของเอง

✅ มีทีมงานมืออาชีพ - ขนของอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงของเสียหาย

✅ ราคายุติธรรม - คิดตามระยะทางและปริมาณของ ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง

✅ บริการทั่วขอนแก่นและพื้นที่ใกล้เคียง - รองรับการขนย้ายทั้งในเมืองและต่างจังหวัด

✅ บริการประเมินราคาก่อนใช้บริการ - ให้ความมั่นใจในค่าใช้จ่ายก่อนเริ่มการขนย้าย


เคล็ดลับในการย้ายหอพักให้สะดวก

จัดตารางเวลาย้ายให้ชัดเจน ควรแจ้งล่วงหน้ากับทางหอพักเพื่อเตรียมความพร้อม หลีกเลี่ยงเวลาขนย้ายที่มีอากาศร้อนเกินไป ในวันที่ฝนตก เพื่อความสะดวกในการขนของ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม แพ็กของให้พร้อม เช่น กล่อง เทปกาว เชือก จะได้รวดเร็วในการขนย้ายของค่ะ

หากคุณต้องการย้ายหอพักในขอนแก่น รถรับจ้างขอนแก่น เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยบริการที่สะดวก ราคาสมเหตุสมผล และทีมงานที่เชี่ยวชาญ เพียงแค่ติดต่อ แจ้งรายละเอียด และรอให้ทีมงานจัดการทุกอย่างให้คุณได้เลย
27
พูดคุยทั่วไป / จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? กับเรานรินทร์ทอง!
« กระทู้ล่าสุด โดย Lali เมื่อ ตุลาคม 11, 2025, 10:55:55 PM »


หากใครที่มีแนวโน้มอยากปิดบริษัท หรือต้องการเลิกทำกิจการ แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นจากขั้นตอนไหน? แล้วการ จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้ในบทความนี้ กับ นรินทร์ทอง
จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทองคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่?[/font]



    • [/color]กรณีบริษัทไม่มี VAT[/size] - ค่าบริการจดทะเบียนเลิกบริษัทและเสร็จการชำระบัญชี อาจอยู่ที่ประมาณ 25,000 บาท
    [/list]

      • [/color][/size][/color]กรณีบริษัทมี VAT[/size][/color][/size]- ค่าบริการอาจอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท
      [/list]

        • [/color][/size][/color]ค่าธรรมเนียม[/size][/color][/size]- ค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนเลิกบริษัทและเสร็จการชำระบัญชีที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประมาณ 1,260 บาท
        [/list]

          • [/color][/size][/color]ค่าโฆษณาหนังสือพิมพ์[/size] - อาจมีค่าใช้จ่ายในการประกาศโฆษณาเลิกบริษัทในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
          [/list]

            • [/color][/size][/color]ค่าบริการอื่นๆ[/size] - อาจมีค่าบริการอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าจัดทำบัญชี, ค่าตรวจสอบบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
            [/list]
            อยาก จดเลิกบริษัท ต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมคลิกอ่านที่นี่

            [/color]ขั้นตอนการดำเนิน จดเลิกบริษัทราคา[/font]


            1. [/color][/size][/color]การจดทะเบียนเลิกบริษัท[/size] - ขั้นตอนแรกเพื่อประกาศเจตนาอย่างเป็นทางการว่าจะเลิกบริษัท

              • [/color]มีมติเลิกบริษัท[/size]
              [/list]

                • [/color]แต่งตั้งผู้ชำระบัญชี[/size]
                [/list]

                  • [/color]ยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัท[/size]
                  [/list]
                  2. [/color][/size][/color]การจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี[/size][/color][/size]- ดำเนินการหลังจากบริษัทได้เลิกกิจการและชำระบัญชีเรียบร้อยแล้ว
                    • ชำระบัญชี
                    [/list]
                      • ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์
                      [/list]
                        • [/color]จัดทำงบการเงินฉบับสุดท้าย[/size]
                        [/list]
                          • [/color]ประชุมอนุมัติงบการเงิน[/size]
                          [/list][/color][/size]
                            • [/color]ยื่นจดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี[/size]
                            [/list]
                            จดเลิกบริษัท ราคา เท่าไหร่? ปรึกษาเราได้ที่ นรินทร์ทองคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

                            [/color]เอกสารที่ลูกค้าจะได้รับในการจดเลิกบริษัท[/font]


                            [/color]1. [/size][/color][/size][/color]หนังสือรับรองการจดทะเบียนเลิกบริษัท (เลิกกิจการ)[/size]
                            [/color]2. [/size][/color][/size][/color]หนังสือขีดชื่อเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (กรณีที่บริษัทจด Vat)[/size]
                            [/color]3. [/size][/color][/size][/color]หนังสือรับรองการเสร็จชำระบัญชีบริษัท[/size]
                            ศึกษา ขั้นตอนการดำเนิน จดเลิกบริษัท กับ นรินทร์ทอง แบบละเอียดคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

                            [/color]อยาก จดเลิกบริษัท ราคา สุดคุ้ม ไม่มีบวกเพิ่ม ให้ นรินทร์ทอง ช่วยวางแผน[/font]

                            จะเห็นว่า "การจดเลิกบริษัท" เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและมีหลายขั้นตอน ดังนั้นการเลือกใช้บริการจากสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น ถูกต้อง และรวดเร็ว สำหรับใครที่กำลังมองหาที่จดเลิกบริษัท ราคา สุดคุ้ม ไม่มีบวกเพิ่ม เราขอแนะนำ[/color][/size][/url]นรินทร์ทอง สำนักงานบัญชีที่เข้าใจธุรกิจทุกรูปแบบ และพร้อมเดินเคียงข้างคุณทุกขั้นตอน ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

                              • [/color]การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี[/size]
                              [/list]

                                • [/color]รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้[/size]
                                [/list]

                                  • [/color]งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท[/size]
                                  [/list]

                                    • [/color]ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ[/size]
                                    [/list]

                                    สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
                                    Facebook : NarinthongOfficial
                                    E-mail : narinthong.ac@gmail.com
                                    Line : @Narinthong
                                    Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339

                                    28

                                    ไวท์บอร์ดกระจก คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา หากคุณต้องการสร้างสรรค์พื้นที่ทำงานที่ทั้งสวยงามและมีประสิทธิภาพในการทำงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 20% และ สามารถช่วยให้คุณจดไอเดียได้เร็วขึ้นถึง 30% ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ทั้งความสวยงาม ทนทาน และฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้ ไวท์บอร์ดกระจก กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน



                                    ทำไมต้องเลือก "กระดานไวท์บอร์ดกระจก"?
                                    •   สวยงาม ทันสมัย: ผิวหน้ากระจกที่เรียบเนียนและใสสะอาด ช่วยให้พื้นที่ทำงานของคุณดูทันสมัยและเป็นระเบียบเรียบร้อย สามารถตกแต่งได้หลากหลายสไตล์
                                    •   ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน: วัสดุที่ใช้ผลิตมีความแข็งแรงทนทาน ไม่เป็นรอยขีดข่วนง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว
                                    •   เขียนลื่น ลบง่าย: ผิวหน้ากระจกเคลือบสารพิเศษ ทำให้ปากกาไหลลื่น เขียนได้อย่างนุ่มนวล และลบออกได้อย่างง่ายดาย ไม่ทิ้งคราบ
                                    •   ฟังก์ชันหลากหลาย: นอกจากการใช้เป็น กระดานไวท์บอร์ด สำหรับเขียนและลบแล้ว ยังสามารถใช้เป็น บอร์ดติดประกาศ หรือ บอร์ดตู้กระจก สำหรับติดปฏิทิน ภาพ หรือเอกสารสำคัญได้อีกด้วย
                                    •   ปลอดภัยต่อสุขภาพ: ผิวหน้ากระจกเรียบลื่น ทำความสะอาดง่าย จึงป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย





                                    ไวท์บอร์ดกระจก เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายพื้นที่ เช่น สำนักงาน ห้องประชุม ห้องเรียน หรือแม้แต่ที่บ้าน สามารถนำมาติดตั้งเป็น บอร์ดติดประกาศตู้กระจก เพื่อแสดงข้อมูลสำคัญ หรือใช้เป็น บอร์ดกระจก สำหรับตกแต่งผนังก็ได้

                                    สรุปแล้ว ไวท์บอร์ดกระจก ไม่เพียงแต่เป็นอุปกรณ์สำหรับการเขียนและวาดภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและประสิทธิภาพในการทำงานของคุณอีกด้วย หากคุณกำลังมองหา บอร์ดกระจก หรือ บอร์ดติดประกาศตู้กระจก ที่มีคุณภาพและดีไซน์สวยงาม ไวท์บอร์ดกระจก คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา



                                    คำแนะนำเพิ่มเติม:
                                    •   เลือกขนาดที่เหมาะสม: เลือกขนาดของ ไวท์บอร์ดกระจก ให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
                                    •   เลือกสีที่เข้ากับการตกแต่ง: มีให้เลือกหลากหลายสี เพื่อให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งของคุณ
                                    •   เลือกอุปกรณ์เสริม: เช่น ปากกาไวท์บอร์ด แม่เหล็ก และที่วางปากกา เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน

                                    เปลี่ยนพื้นที่ทำงานของคุณให้เป็นพื้นที่แห่งไอเดียด้วย ไวท์บอร์ดกระจก


                                    ดูสินค้าเพิ่มเติมได้ที่
                                    https://www.nipponmultiboard.com

                                    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
                                    Mobile Phone : 065-649-7100
                                    Line ID : nipponmultiboard
                                    Email : nipponboard@gmail.com

                                    ยกระดับพื้นที่ทำงานด้วย "ไวท์บอร์ดกระจก" สวยงาม ทันสมัย ใช้งานได้หลากหลาย

                                    #ไวท์บอร์ดกระจก #บอร์ดติดประกาศตู้กระจก #กระดานไวท์บอร์ดกระจก #บอร์ดกระจก #บอร์ดตู้กระจก #บอร์ดติดประกาศ
                                    29
                                    พูดคุยทั่วไป / ทําบัญชีขายเสื้อผ้า ต้องเริ่มยังไง!
                                    « กระทู้ล่าสุด โดย Lali เมื่อ ตุลาคม 11, 2025, 05:48:05 PM »



                                    ทําบัญชีขายเสื้อผ้า ต้องเริ่มยังไง!
                                    นรินทร์ทอง จะพาทุกท่านไปเรียนรู้ การวางแผนทําบัญชีร้านขายเสื้อผ้า พร้อมเรียนรู้แนวทางโครงสร้างของธุรกิจ การเก็บเอกสาร และตัวอย่างการบันทึกบัญชีในแต่ละเคสที่น่าสนใจ สำหรับใครต้องการแนวทางเหล่านี้ต้องห้ามพลาด!

                                    เปิดร้านขายเสื้อผ้า ยังไงให้ราบรื่น ให้ นรินทร์ทอง ช่วยแนะนำอ่านเพิ่มเติมคลิก

                                    การวางแผน ทำบัญชีขายเสื้อผ้า


                                    1. ทำความเข้าใจประเภทของบัญชี - คุณต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจบัญชีพื้นฐาน 3 ประเภท

                                    • รายได้ (Revenue)
                                    • ต้นทุนสินค้าที่ขาย (Cost of Goods Sold - COGS)
                                    • ค่าใช้จ่าย (Expenses)
                                    2. เลือกระบบการทำบัญชี

                                    • บัญชีมือ (Manual Accounting)
                                    • โปรแกรมบัญชีสำเร็จรูป (Accounting Software)
                                    • จ้างนักบัญชี (Accountant)
                                    3. บันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย

                                    • บัญชีรายรับ
                                    • บัญชีรายจ่าย
                                    4. การจัดการต้นทุนสินค้าคงคลัง (Inventory Management)
                                    • บันทึกการซื้อสินค้า
                                    • บันทึกการขายสินค้า
                                    • ตรวจสอบสต็อก
                                    5. การจัดทำรายงานทางการเงิน - การบันทึกบัญชีอย่างเดียวไม่เพียงพอ คุณต้องนำข้อมูลมาสรุปเป็นรายงานเพื่อดูผลประกอบการ
                                    • งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
                                    • งบดุล (Balance Sheet)
                                    • งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement)
                                    6. การจัดการภาษี

                                    • ภาษีเงินได้
                                    • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
                                    • ภาษีอื่นๆ

                                    เรียนรู้การวางแผนทำบัญชีร้านเสื้อผ้า แบบละเอียดอ่านเพิ่มเติมคลิก

                                    โครงสร้างธุรกิจเสื้อผ้า


                                    - ต้นทุน (Cost) 
                                    • คือค่าใช้จ่ายจากต้นทุนจริง ที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิตสินค้าหรือบริการ เช่น แรงงาน, วัสดุ, ค่าการตลาดและโฆษณา เป็นต้น
                                    - รายได้ (Revenue)
                                    • รายได้จากการขายปลีก - การขายเสื้อผ้าให้กับลูกค้าโดยตรงผ่านหน้าร้าน, ร้านค้าออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มต่างๆ
                                    • รายได้จากการขายส่ง - ขายเสื้อผ้าให้กับร้านค้าอื่นๆ หรือตัวแทนจำหน่ายในปริมาณมาก
                                    • รายได้จากการรับจ้างผลิต - รับจ้างผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์อื่นๆ หรือลูกค้าที่สั่งผลิตในปริมาณมาก
                                    - ค่าใช้จ่าย (Expenses)
                                    คือค่าใช้จ่ายทั่วไปที่ทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ ได้แก่
                                    • ค่าสาธารณูปโภค - ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าอินเทอร์เน็ต
                                    • ค่าเช่า - ค่าเช่าพื้นที่สำหรับหน้าร้าน, โกดัง, หรือสำนักงาน
                                    • ค่าขนส่ง - ค่าจัดส่งสินค้า, ค่าขนส่งวัตถุดิบ
                                    • ค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์ม - ค่าธรรมเนียมในการขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce
                                    • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ - ค่าบัญชี, ค่าที่ปรึกษา, ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์

                                    การเก็บเอกสาร


                                    1. เอกสารการซื้อขาย2. เอกสารการผลิต3. เอกสารการเงิน4. เอกสารทางการตลาด5. เอกสารอื่นๆ
                                    ซึ่งวิธีการจัดเก็บเอกสารสำหรับธุรกิจเสื้อผ้า สามารถทำได้ดังนี้
                                    1. แบ่งแยกประเภทเอกสาร - แบ่งเอกสารตามประเภท เช่น เอกสารการเงิน, เอกสารการขาย, เอกสารการผลิต และเอกสารการตลาด เป็นต้น2.จัดเก็บให้เป็นระบบ - คุณสามารถใช้ตัวช่วยอย่าง แฟ้มเอกสาร, ตู้เก็บเอกสาร หรือระบบจัดเก็บดิจิทัล (Cloud storage) เพื่อจัดเก็บเอกสารให้เป็นระเบียบ3. ระบุหมวดหมู่ให้ชัดเจน - ติดป้ายชื่อหรือใช้ระบบการจัดหมวดหมู่ที่ชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาเอกสาร4. จัดทำสำเนา - จัดเก็บเอกสารต้นฉบับและสำเนาไว้ในที่ที่ปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหายหรือการสูญหาย5. รักษาความปลอดภัย - จัดเก็บเอกสารไว้ในสถานที่ที่ปลอดภัยและจำกัดการเข้าถึง เพื่อป้องกันการถูกขโมยหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต6. ทำลายเอกสารที่หมดอายุ - ทำลายเอกสารที่ไม่จำเป็นหรือหมดอายุตามที่กฎหมายกำหนด โดยใช้เครื่องทำลายเอกสารเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล7. จัดเก็บเอกสารดิจิทัล - สแกนเอกสารเป็นไฟล์ดิจิทัลและจัดเก็บในระบบคลาวด์ หรือฮาร์ดไดรฟ์สำรอง เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงและป้องกันความเสียหาย





                                    สนใจวางแผนทำบัญชีร้านเสื้อผ้า กับผู้เชี่ยวชาญอย่าง นรินทร์ทองอ่านเพิ่มเติมคลิก

                                    เริ่มต้นทำธุรกิจขายเสื้อผ้า ให้ นรินทร์ทอง เป็นที่ปรึกษาด้าน ทำบัญชีขายเสื้อผ้า พร้อมต่อยอดธุรกิจ
                                    การเลือก ทำบัญชีขายเสื้อผ้า โดยสำนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์อย่างมาก หากคุณสนใจขอแนะนำนรินทร์ทองเป็นที่ปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

                                    • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
                                    • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
                                    • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
                                    • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ

                                    สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
                                    Facebook : NarinthongOfficial
                                    E-mail : narinthong.ac@gmail.com
                                    Line : @Narinthong
                                    Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
                                    30
                                    จัดฟันบางนา: การจัดฟันแบบใส ช่วยลดกลิ่นปากได้หรือไม่

                                    หลายคนมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องรีบทำการแก้ไข เพราะอาจจะจะทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากและฟันนั้น เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก เมื่อคุณมีกลิ่นปากและลมหายใจที่ไม่พึงประสงค์จะทำให้รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกอาย เมื่อต้องเข้าสังคมหรือใกล้ชิดกับผู้อื่น

                                    ดังนั้น เราต้องเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดกลิ่นปากเพื่อที่จะได้ทราบถึงต้นตอของปัญหาและทำการแก้ไข โดยสาเหตุหลักๆอาจจะเกิดจากการไม่ดูแลเหงือกและฟันของคุณอย่างเหมาะสม ซึ่งคราบพลัคที่สะสมรอบรอบๆฟันเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปาก เพราะเมื่อแบคทีเรียในคราบพลัคย่อยเศษอาหารในช่องปากของเราแล้ว แบคทีเรียจะปล่อยแก๊สทำให้ลมหายใจของเรามีกลิ่นไม่พึงประสงค์หรืออาจจะเกิดขึ้นจากปัญหาสุขภาพเหงือก ซึ่งเป็นปัญหาเหงือกอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้นานอาจจะทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สิ่งที่เราดื่มหรือรับประทานเข้าไปก็อาจจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์และคนที่สูบบุหรี่ก็จะทำให้เกิดกลิ่นปากเช่นเดียวกัน

                                    ทำให้เกิดคราบบนผิวฟันและอาจทำให้เสี่ยงสูงที่จะมีปัญหาสุขภาพเหงือกวิธีที่ดีที่สุด สำหรับการป้องกันปัญหาดังกล่าวก็คือการแปรงฟันวันละ 2 ครั้งเพื่อขจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่ติดอยู่ในส่วนที่เข้าถึงได้ยาก นอกจากนี้ คนที่มีปัญหาในเรื่องของรูปร่างฟันหรือลักษณะการขึ้นของฟันก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้เช่นเดียวกัน เพราะฟันที่ซ้อนเก ฟันที่ห่าง อาจจะทำให้เราแปรงฟันได้ไม่สะอาด ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ก็มักเกิดขึ้นกับผู้ที่เข้ารับการจัดฟันแบบที่มีเครื่องมือแบบติดแน่น ดังนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องดูแลรักษาความสะอาดช่องปากและฟันให้มากเป็นพิเศษ เพื่อลดการเกิดกลิ่นปากเพราะคนกลุ่มนี้มักจะเกิดกลิ่นปากได้ง่าย แต่ในกลุ่มคนที่เข้ารับการจัดฟันแบบใสปัญหานี้อาจจะหมดไปได้หรืออาจจะเกิดขึ้นได้น้อยเพราะในขณะทำความสะอาดช่องปากและฟันผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันออกได้ทำให้สามารถแปรงฟันได้อย่างเต็มที่

                                    สำหรับใครที่คิดที่จะเข้ารับการจัดฟัน อาจจะลังเลว่าควรที่จะเข้ารับการจัดฟันแบบใด เพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพและช่วยลดการเกิดปัญหาอื่นๆที่อาจจะตามมาได้ในอนาคต หลายคนสงสัยว่า ถ้าหากเข้ารับการจัดฟันแบบใสแล้ว เราจะต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างไร เพื่อที่จะให้ไม่เกิดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ เพราะปัญหาดังกล่าวนี้ผู้เข้ารับการจัดฟันมักจะพบเจอได้บ่อยซึ่งทำให้เสียบุคลิกภาพและรู้สึกไม่ดี เวลาที่ต้องเข้าสังคมหรือใกล้ชิดกับผู้อื่น สำหรับวันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงประเด็นที่ว่าการจัดฟันแบบใส

                                    สามารถทำให้เกิดกลิ่นปากได้หรือไม่ ต้องอธิบายก่อนว่าการเกิดกลิ่นปากนั้น อาจจะเกิดจากการที่เรารับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรงเข้าไป แต่ในแง่ของการจัดฟันแบบใส ในส่วนของการทำความสะอาดช่องปากและฟัน ถือว่ามีความสะดวกสบายมากและตอบโจทย์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรา เพราะการจัดฟันแบบใส ไม่ทำให้เกิดปัญหาการออกเสียง

                                    การพูดหรือส่งผลกระทบต่อการรับประทานอาหาร เพราะเมื่อเวลาที่เราจะต้องรับประทานอาหาร เราจะต้องถอดเครื่องมือการจัดฟันออกทุกครั้ง ทำให้รับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายและเต็มที่มากยิ่งขึ้น รวมไปถึง ขั้นตอนการทำความสะอาดช่องปากและฟันก็สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะสามารถแปรงฟันได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกลัวว่าเหล็กจัดฟันจะหลุดออกมา นอกจากนี้ ยังไม่มีอุปสรรคในการทำความสะอาดช่องปากและฟัน จึงทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใสสามารถแปรงฟันได้ตามปกติ แต่อย่างไรก็ตามการเกิดกลิ่นปากนั้น อาจจะเกิดขึ้นได้
                                    หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10