กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
11
ความเชื่อผิดๆของการจัดฟันเด็ก
 
การจัดฟันในเด็ก สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่ตอนที่เด็กอายุ 6-7 ขวบ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรนำบุตรหลานที่มีอายุต่ำว่า 10 ปี มาตรวจกับทันตแพทย์จัดฟันได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอจนถึงวัยรุ่น เพราะในวัยเด็กเป็นช่วงที่ฟันกำลังพัฒนาและขากรรไกรเติบโต และถ้าตรวจพบปัญหาฟันซ้อน การสบฟันผิดปกติ จะสามารถแก้ไขได้ง่ายมากกว่าการจัดฟันตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่า การจัดฟันในเด็กสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่เด็กมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย จะช่วยสร้างโอกาสในการเรียนรู้ของเด็กได้อย่างแน่นอน

นอกจากจะแก้ไขปัญหาฟันแล้ว ยังช่วยในเรื่องของความผิดปกติของกล้ามเนื้อใบหน้าด้วย ซึ่งในข้อนี้พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะยังไม่ทราบ ซึ่งหากพ่อแม่ผู้ปกครองพบความผิดปกติของใบหน้าหรือรูปร่างฟัน ก็ควรพาเด็กเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจและแก้ไขทันที ไม่ควรละเลยและปล่อยให้ปัญหาลุกลามไปจนถึงตอนโต เนื่องด้วยพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าฟันน้ำนมของเด็กไม่มีความสำคัญ จึงละเลยที่จะสอนเด็กให้รู้จักวิธีการทำความสะอาดของช่องปากและฟันตั้งแต่เด็ก เพราะคิดว่ารอให้โตก่อนค่อยสอนให้เด็กแปรงฟันอย่างถูกวิธี

ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะจะเป็นการปล่อยให้ปัญหาฟันลุกลามได้ นอกจากนี้ ผู้ปกครองหลายคนก็ยังมีความเชื่อที่ผิดๆ เกี่ยวกับการจัดในเด็ก หรืออาจจะยังไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ในการพาบุตรหลานของท่านเช้ารับการจัดฟัน จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ ดังนั้น วันนี้ทางคลินิกของเราจะมาพูดถึงเรื่องของความเชื่อที่ผิดๆของการจัดฟันในเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองอาจจะยังไม่เข้าใจ เพื่อที่จะได้เปลี่ยนมุมมองในเรื่องของสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก รวมไปถึงจะได้เข้าใจในเรื่องของการจัดฟันในเด็กเพิ่มมากขึ้น
 
หากพูดถึงเรื่องของการจัดฟันไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด และสำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ หลายคนอาจจะยังมีความเชื่อที่ผิดๆว่า การจัดฟัน มีไว้สำหรับเด็กเท่านั้น มักจะคิดว่า การจัดฟันนั้นมีเพียงเด็กๆ เท่านั้นที่ทำกัน คนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไปจัดฟันก็ไม่มีประโยชน์อะไร นี่เป็นความเชื่อที่ผิด เพราะจริงๆ แล้ว ไม่มีใครแก่เกินกว่าจะจัดฟัน เพราะเราทุกคนมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟันได้ และไม่ว่าจะวัยไหน ก็สามารถเข้ารับการจัดฟันได้ เพียงแต่ว่า การจัดฟันในเด็กนั้น

จะดีกว่าวัยผู้ใหญ่เพราะสามารภแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า และไม่มีความซับซ้อนเท่ากับการจัดฟันในผู้ใหญ่ จึงไม่แปลกที่พ่อแม่ผู้ปกครองยังมีความคิดที่ผิดๆเกี่ยวกับการจัดฟันในเด็ก นอกจากนี้ยังมีความคิดที่ว่า เมื่อเข้ารับการจัดฟันเสร็จแล้วฟันก็จะอยู่ในสภาพนั้นตลอดไป ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยที่คิดว่า หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันเสร็จแล้วก็จบกัน ฟันของคุณจะเรียงตัวสวยอยู่สภาพนั้นไปตลอด ไม่เปลี่ยนแปลงไปอีกเลยตลอดกาล นี่เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ไม่เป็นจริง หลังจากที่คุณจัดฟันเสร็จแล้ว ฟันของคุณยังสามารถมีการเคลื่อนที่อยู่ต่อไปได้อีก

ดังนั้นคุณจึงจำเป็นจะต้องใส่ รีเทนเนอร์ ไปอีกตลอดชีวิต เพื่อรักษารูปแบบของฟันให้คงอยู่ดังเดิม และไม่ให้ฟันล้ม จนต้องกลับมาจัดฟันใหม่อีกครั้ง เช่นเดียวกับการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่หลายคนมองว่า เมื่อเข้ารับการจัดฟันในวัยเด็กแล้ว เมื่อโตไปจะไม่ทำให้เกิดฟันเกี่ยวกับฟันอีก ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะถ้าหากเข้ารับการจัดฟันในวัยเด็ก และไม่มีวินัยในการสวมใส่รีเทนเนอร์ภายหลังจากการจัดฟันเสร็จแล้ว 

 อาจจะทำให้เด็กกลับมามีสภาพฟันที่ผิดปกติได้ ดังนั้น ระหว่างการจัดฟันในเด็ก พ่อแม่ควรแนะนำและสอนให้เด็กมีวินัยในการสวมใส่เครื่องมือคงสภาพฟัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจัดฟันซ้ำเป็นครั้งที่สอง ส่วนในเรื่องของกรรับประทานอาหาร พ่อแม่เกรงว่าลูกจะไม่ได้รับประทานอาหารอย่างเต็มที่

เนื่องจากมีเครื่องมือกรจัดฟัน อันนี้พ่อแม่ผู้ปกครองควรทำความเข้าใจก่อนว่า การเข้ารับการจัดฟันในเด็กนั้น แม้จะมีเครื่องมือในการจัดฟันอยู่ภายในช่องปากแต่ก็ทำให้ผู้เข้ารับการจัดฟัน สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง ทั้งหมดนี้คือความเชื่อที่ผิดๆ ของการจัดฟันในเด็กที่พ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนกังวล ซึ่งอาจจะทำให้เป็นอุปสรรคหรือลดโอกาสในการเข้ารับการจัดฟันในเด็กได้
 
หากพ่อแม่ผู้ปกครองท่านไหน สนใจให้บุตรหลานของท่าน เข้ารับการจัดฟันในเด็ก ด้วยโปรแกรม EF Line ก็สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำและปรึกษากับทางทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการจัดฟันในเด็ก มีประสบการณ์ด้านทันตกรรมในเด็กมาอย่างยาวนาน จึงเป็นการการันตีได้ว่า บุตรหลานของท่านจะมีสุขภาพฟันที่ดี และมีฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามอย่างแน่นอน
12
พูดคุยทั่วไป / คลิปหลุดออนไลน์
« กระทู้ล่าสุด โดย xxxnaja เมื่อ เมษายน 26, 2025, 05:16:18 PM »
เว็บโป๊เล็กๆ นักเรียน 18+ รวมคลิปหลุด คลิปทางบ้าน แอบถ่าย หลุดทางเฟส หลุดทางไลน์ Update ทุกวันที่นี่ XXXNAJA.NET คิดถึงเว็บโป๊ คิดถึงเรา รวมหนังโป๊จัดเต็ม คลิปเด็ด คลิปดัง คลิปหลุดดารา คลิปหลุดนักเรียน ภาพเย็ดนักเรียน หนังโป๊ ดูฟรี ดูได้ในโทรศัพท์ กับเว็บ XXXNAJA รวม คลิปหลุดนักเรียน หลุดนักศึกษา คลิปหลุดนักเรียน หลุดนักศึกษา หลุดดารา แอบถ่าย ตั้งกล้อง หนังโป๊เอเชีย เย็ดนักศึกษา หลุดนักเรียนเอากัน หลุดคลิปโป๊เด็ก นิสิต xxx porn นักเรียน โรงเรียนดัง มหาลัยดัง sex student av หลุดเด็กนักเรียนจากโรงเรียนดัง นักศึกษาเอากันในมหาลัยชื่อดัง
คลิปหลุดนักเรียน , คลิปหลุดนักศึกษา , คลิปหลุดvk , คลิปโป๊ , คลิปโป๊ญี่ปุ่น , คลิปโป๊ฝรั่ง , คลิปโป๊จีน , คลิปโป๊ไทย , หนังโป๊ , ดูคลิปโป๊ฟรีไม่มีโฆษณา , ดูหนังXXX , คลิปหลุด
13
โทรศัพท์มือถือใหม่ 2025 หัวเหว่ย Huawei MateXT Ultimate (16GB/1TB)
111,360 บาท

หัวเหว่ย Huawei MateXT Ultimate (16GB/1TB)
โทรศัพท์มือถือพับได้ 3 จอ

รายละเอียดเบื้องต้น
   ยี่ห้อ-รุ่น                 หัวเหว่ย Huawei MateXT Ultimate (16GB/1TB)
   ราคากลาง               111,360 บาท
   จำนวนซิม               (Nano Sim)
   แบบดีไซน์              จอสัมผัส
   สี                         Black, Red
   ความถี่-เครือข่าย
3G
4G
5G

   ขนาด-น้ำหนัก                      ยาว 156.7 x กว้าง 73.5 x หนา 12.8 มม., น้ำหนัก 298 กรัม
   ความจุข้อมูลภายใน (ROM)      1000 GB
   ความจุข้อมูลภายนอกสูงสุด          -
   แบตเตอรี่ และระบบชาร์จ         ความจุแบตเตอรี่ 5,600 mAh

จอแสดงผล
   ชนิดจอ                   จอสัมผัส (LTPO OLED)
   ความละเอียด            10.2 นิ้ว, 2,232 x 3,184 px
   รายละเอียดอื่น

กล้องถ่ายรูป
   ขนาด-ความละเอียด                       กล้องหลัง (50 Mpx), กล้องหน้า (8 Mpx)
   ความละเอียดของภาพภ่ายสูงสุด
   คุณสมบัติ                                      -

ระบบปฏิบัติการ
   หน่วยประมวลผล (CPU)              Octa-core (1?2.3 GHz Taishan Big & 3?2.18 GHz Taishan Mid & 4?1.55 GHz Cortex-A510)
   หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU)       Maleoon 910
   หน่วยความจำ (RAM)                 16.0 GB
   ระบบเชื่อมต่อภายนอก                    -
   ระบบรับส่งข้อความ                        -
   การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต                3G, WiFi, 4G, 5G
14
พูดคุยทั่วไป / ซื้อประกันสุขภาพ สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้
« กระทู้ล่าสุด โดย pitoon เมื่อ เมษายน 24, 2025, 06:46:28 PM »
ในยุคปัจจุบัน การดูแลสุขภาพกำลังเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญ เนื่องจากโรคภัยไข้เจ็บสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา การซื้อประกันสุขภาพจึงกลายเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับผู้คนหลายคนในปัจจุบัน ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการซื้อประกันสุขภาพ และเหตุผลที่ควรพิจารณาในการทำประกันสุขภาพให้กับตัวเองและครอบครัว

1. ทำไมต้องซื้อประกันสุขภาพ

การซื้อประกันสุขภาพช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับการดูแลที่ดีที่สุดเมื่อเจ็บป่วย โดยประกันสุขภาพจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่น ๆ ที่ควรพิจารณา ได้แก่:

    การดูแลสุขภาพที่ดี: คุณจะได้รับการเข้าถึงการรักษาที่ทันท่วงทีและมีคุณภาพ
    ลดหย่อนภาษี: ค่าเบี้ยประกันสุขภาพสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
    ความสบายใจ: ทำให้คุณมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล




2. ประเภทของประกันสุขภาพ

การประกันสุขภาพมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทอาจมีข้อกำหนดและความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ดังนี้

    ประกันสุขภาพแบบรายปี: ให้ความคุ้มครองในระยะเวลาหนึ่งปี สามารถต่ออายุได้
    ประกันสุขภาพแบบตลอดชีพ: มีความคุ้มครองระยะยาว โดยไม่จำกัดอายุ
    ประกันสุขภาพผู้ป่วยใน: คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาเมื่อผู้เอาประกันต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
    ประกันสุขภาพผู้ป่วยนอก: คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล เช่น ค่าหมอ ค่ายา

3. การเลือกซื้อประกันสุขภาพ

เมื่อคุณตัดสินใจที่จะทำประกันสุขภาพ มีข้อควรพิจารณาเพื่อให้คุณได้รับความคุ้มครองที่ตรงตามความต้องการ

    ตรวจสอบความคุ้มครอง: ควรอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับความคุ้มครองที่ประกันนั้นๆ ให้ หากมีการดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคเฉพาะหรือบริการเสริม เช่น ฟิตเนสก็อาจทำให้ดีขึ้น
    เปรียบเทียบเบี้ยประกัน: เบี้ยประกันในแต่ละบริษัทอาจแตกต่างกัน ควรเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครอง
    ตรวจสอบเงื่อนไข: อ่านเงื่อนไขและข้อยกเว้นของประกัน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับความคุ้มครองตามที่ต้องการ
    บริการและเครือข่ายของโรงพยาบาล: ตรวจสอบว่าประกันสุขภาพที่เลือกมีเครือข่ายโรงพยาบาลที่สะดวกและเพียงพอสำหรับคุณ

ประกันสุขภาพที่ไหนดีการซื้อประกันสุขภาพเป็นการลงทุนที่สำคัญเพื่อปกป้องสุขภาพของคุณและครอบครัว ไม่ว่าคุณจะเป็นคนทำงาน หรือเป็นเพียงคนที่ต้องการมีสุขภาพดี ประกันสุขภาพจะช่วยให้คุณมีความมั่นใจในชีวิตประจำวัน เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการซื้อประกันสุขภาพ และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
15
มาชมรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่น่าสนใจงานมอเตอร์โชว์ 2025

กูรูช้าง-สินธนุ จำปีศรี จะพาทุกท่านไปชมไฮไลต์รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่น่าสนใจภายในงาน บางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ 2025 โดยในปีนี้มีรถยนต์ไฟฟ้าเข้าร่วมภายในงานนี้หลายรุ่นที่น่าจับตามอง โดย กูรูช้าง ได้คัดสรรรุ่นที่โดดเด่นและน่าสนใจมาฝาก ประกอบด้วย Hyundai Kona Electric N Line, MG4 Electric, Honda e:N1, GWM Ora Good Cat, Mercedes-benz EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic และ BYD Atto 2 แต่ละรุ่นจะมีอะไรที่น่าสนใจ ไปดูกันเลยครับ
 

Hyundai Kona Electric N Line
ราคา : ยังไม่เปิดเผย

รถคันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ ที่ Hyundai นำมาจัดแสดงเพื่อทดสอบกระแสตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่สนใจในรถยนต์คันนี้ ที่จะมากับดีไซน์สปอร์ตด้วยชุดแต่ง N Line รอบคัน พร้อมสมรรถนะเหนือระดับด้วยแบตเตอรี่ 66.0 kWh มีระยะการวิ่งได้ไกล 451 กม. (ตามมาตรฐาน WLTP) จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 214 แรงม้า แรงบิด 255 นิวตันเมตร สวยสะดุดตาด้วยกันชนหน้าและหลังดีไซน์เฉพาะรุ่น, สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกแอลอีดีและล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ภายในห้องโดยสารเสริมความสปอร์ตด้วยพวงมาลัยหุ้มหนังเดินตะเข็บแดง, เบาะหนัง Alcantara ประทับโลโก้ N ดูหรูด้วยคันเร่งและเบรกดีไซน์เฉพาะรุ่น พร้อมจอแสดงผล Infotainment 12.3 นิ้วและแผงหน้าปัดดิจิทัล, ระบบเครื่องเสียง Bose ลำโพง 8 ตำแหน่ง, ระบบความปลอดภัย Hyundai SmartSense เต็มรูปแบบ โดย Kona Electric N Line นี้จะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการรถไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัย  สมรรถนะคุ้มค่าและสัมผัสการขับขี่เร้าใจ
 

MG4 Electric
ราคา :
Standard Range (D) 709,900 บาท (ส่วนลดพิเศษเหลือ 559,000 บาท)
Long Range (D) 664,900 บาท
Long Range (V) 889,900 บาท
XPower 1,119,000 บาท

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100% จาก MG ก็จะมี MG4 Electric ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “ICON” นิยามของการเป็นต้นแบบและมาตรฐานใหม่ของรถอีวีที่ขับสนุก พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Nebula Pure Electric Platform ที่ดีไซน์มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ พร้อมจุดเด่นอีกหลายรายการ โดยภายในงานนี้ยังสร้างสีสันด้วยการเปิดตัวสี Soul Blue ที่ให้กลิ่นอายความพรีเมียม แต่สะท้อนภาพลักษณ์ความสุขุม นุ่มลึกของผู้ขับขี่ โดยสีใหม่นี้มีในรุ่น Standard Range รุ่น D, Long Range รุ่น D และรุ่น V
 

Honda e:N1
ราคา :
สีดำคริสตัล (มุก) 1,199,000 บาท
สีขาวแพลทินัม (มุก) 1,203,000 บาท

รถคันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของฮอนด้าที่มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปยนตรกรรม xEV เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรัก EV  โดยเปิดให้จองและจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าทั่วไปได้เป็นเจ้าของ (ในตอนแรกเปิดให้เช่าเท่านั้น) โดยจะมีสีดำคริสตัล (มุก) และสีขาวแพลทินัม (มุก) ให้เลือก พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าทั้งระบบ 8 ปี หรือ 160,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมรับข้อเสนอเมื่อจองตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2568 – 7 เมษายน 2568 และรับรถตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 – 31 กรกฎาคม 2568 รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.69%(ส่วนลดดอกเบี้ย 0.3%) สำหรับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและครอบครัว (Honda Loyalty) สำหรับลูกค้าทั่วไปรับดอกเบี้ย 1.99% พร้อมรับ
ฟรี ประกันภัย 1 ปี
ฟรี โฮมชาร์จเจอร์ พร้อมบริการติดตั้ง และสายชาร์จแบบพกพา
ฟรี รับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 5 ปี หรือ 140,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
และรับเพิ่มแพ็กเกจเช็กระยะ ค่าแรง และค่าอะไหล่ ตามตารางการบำรุงรักษาที่ระบุไว้ในสมุดรับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กม. (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)


GWM Ora Good Cat
ราคา :
Pro 599,000 บาท
Ulta 699,000 บาท
GT 829,000 บาท

สำหรับรุ่นนี้มีการเพิ่มสีตัวถังใหม่ สีฟ้า So Blue หลังคาสีดำ Black Roof ตกแต่งคาลิเปอร์เบรกสีเหลือง สำหรับรุ่น Pro/Ultra จะเป็นขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 143 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร สำหรับแบตเตอรี่มีความจุ 57.70 kWh สามารถวิ่งได้ 480 กม./การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง(มาตรฐาน NEDC) แต่รุ่น GT จะขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 171 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร สำหรับแบตเตอรี่มีความจุ 57.70 kWh สามารถวิ่งได้ 460 กม./การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง(มาตรฐาน NEDC)


Mercedes-benz EQS 450 4MATIC SUV AMG Dynamic
ราคา : 5,990,000 บาท

เอสยูวีไฟฟ้าระดับ Top-End Luxury รองรับการโดยสารสูงสุด 7 ที่นั่ง ติดตั้งขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ All-wheel drive ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 6.1 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 118 kWh ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 658 กม./การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP)

BYD Auto 2
ราคา : ยังไม่เปิดเผย

และนี่คือว่าที่รถยนต์ไฟฟ้าที่จะมาแทน BYD Dolphin โดยส่งมาจัดแสดงเพื่อทดสอบกระแสตลาดว่าจะถูกใจวัยรุ่นหนือไม่ด้วยตัวถังแบบ Compact B-SUV ข้อมูลจากประเทศจีนระบุว่ามากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 177 แรงม้า แรงบิด 290 นิวตันเมตร สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 384 กม.//การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC)

 
16
จัดฟันบางนา: การเตรียมตัวก่อนเข้ารับ การฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟัน เป็นวิธีที่ดีที่สุด ในการลบคราบต่างๆบนผิวฟัน ที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีสี ซึ่งยังคงติดแน่นอยู่บนผิวฟันให้ออกไปได้ รวมทั้งยังเป็นการแก้ไขปัญหาฟันเหลืองได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด บางรายมีฟันที่เหลืองทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ ทำให้เสียบุคลิกภาพในปัจจุบันการฟอกสีฟันสามารถทำได้มากมายหลากหลายวิธี ซึ่งจะมีข้อดีแตกต่างกันไป โดยที่เราสามารถเลือกได้ตามความต้องการและความสะดวกของตนเอง แต่ก็จะต้องมีการระมัดระวังในเรื่องของการรักษาต้องทำให้ถูกวิธีเพื่อผลที่มีประสิทธิภาพ การฟอกสีฟันเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสีฟันอไม่ว่าจะเป็นสาเหตุมาจากคราบฟันหรือเป็นสีฟันธรรมชาติ


สำหรับสาเหตุที่ทำให้หลายคนมีฟันเหลืองหรือมีสีที่คล้ำลง เกิดจากการรับประทานอาหารและการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน เพราะสีฟันที่เปลี่ยนแปลงไป เกิดจากเราดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพช่องปากและฟันได้ไม่ดี จึงทำให้มีคราบตกค้างอยู่บนผิวฟัน จะทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก รวมไปถึงทำให้เกิดฟันผุและปัญหาอื่นๆตามมาได้ สำหรับการฟอกสีฟัน มีด้วยกันหลายวิธี แต่การเลือกวิธีฟอกสีฟันจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยของผู้เข้ารับการรักษา เช่น สุขภาพช่องปากและฟันสีของเนื้อฟันและค่าใช้จ่ายในการรักษา สำหรับผู้ที่อยากมีฟันขาวสดใสสุขภาพดีก็ควรเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเองควรศึกษาข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธีก่อนเข้ารับการฟอกสีฟันเพื่อผลที่มีประสิทธิภาพ

สำหรับวันนี้คลินิกเรา จะมาแนะนำการเตรียมตัว ก่อนเข้ารับการฟอกสีฟันและสิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่มทำการฟอกสีฟัน ในข้อแรกผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีสุขภาพช่องปากและฟันที่แข็งแรง เพราะการฟอกสีฟัน หากผู้เข้ารับการรักษามีรูปแบบหรือปัญหาอื่นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขอาจทำให้เกิดอาการเจ็บและปัญหาอื่นๆตามมา ซึ่งจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายโดยเปล่าประโยชน์ เนื่องจากการฟอกสีฟันมีแนวโน้มที่จะไม่ได้ผลกับฟันที่เสียหาย ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของฟันเพราะใน 24 ชั่วโมง หลังจากที่ฟันของผู้เข้ารับการรักษาได้รับการสัมผัสกับน้ำยาฟอกสีฟันผู้เข้ารับการรักษาสามารถใช้ยาแก้ปวดได้ เพื่อบรรเทาอาการปวดและอาการเสียวฟัน ภายหลังจากการฟอกสีฟันเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ผลของการฟอกสีฟัน จะไม่ได้อยู่ถาวร


เนื่องจากผลลัพธ์ส่วนใหญ่อยู่ได้ตั้งแต่ 6เดือน-2 ปี ขึ้นอยู่กับว่าสภาพฟันของผู้เข้ารับการรักษาเป็นคราบง่ายมากแค่ไหน รวมไปถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารด้วย นอกจากนี้ผู้เข้ารับการรักษาควรค้นคว้าศึกษาข้อมูล เกี่ยวกับการฟอกสีฟันอย่างละเอียด เพื่อให้การฟอกสีฟันนั้นเหมาะสมกับสภาพช่องปากและฟันของผู้เข้ารับการรักษา อย่างไรก้อตาม ในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาแน่นอนว่า ในปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายในการฟอกสีฟันไม่ว่าจะเป็นน้ำยาชนิดยี่ห้อต่างๆ แต่หากใครต้องการที่จะได้ผลที่ชัดเจนก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นโดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการฟอกสีฟันที่จะทำให้เห็นผลในทันที เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายตามมาที่ค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตามหลายคนคงเคยมีปัญหาและมีข้อสงสัยว่า หากเรามีฟันผุและต้องการเข้ารับการฟอกสีฟันสามารถทำได้หรือไม่ ต้องบอกก่อนว่าในกรณีดังกล่าวทันตแพทย์จะต้องทำการตรวจดูตำแหน่งที่ฟันก่อน ว่าอยู่ในตำแหน่งที่ผุอยู่ด้านในของฟัน สามารถเข้ารับการฟอกสีฟันได้และแต่จะแนะนำให้มาอุดฟันหลังฟอกสีฟันเสร็จ เพื่อที่จะได้เลือกสีฟันให้เข้ากับสีฟันที่ขาวขึ้นแล้ว และคำถามที่ว่าหากอยู่ในระหว่างการจัดฟันสามารถฟอกสีฟันได้หรือไม่ หากผู้เข้ารับการรักษาใส่ชุดเครื่องมือการจัดการแบบติดแน่น ยกตัวอย่างคือ หากผู้เข้ารับการรักษามีเครื่องมือการจัดฟัน หากใส่เครื่องมือการจัดหันอยู่จะทำการฟอกสีฟันไม่ได้


หากใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ในกรณีนี้สามารถฟอกสีฟันได้ แต่ก็ไม่แนะ เพราะวิธีที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดก็คือให้ฟอกสีฟันหลังถอดเครื่องมือจัดฟันทุกชนิดออกเรียบร้อยแล้ว เพื่อผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จทั้งนี้หากคุณสนใจเข้ารับการฟอกสีฟันสามารถปรึกษาและขอคำแนะนำได้จากทีมทันตแพทย์ของทางคลินิกได้ เนื่องจากเรามีการบริการทางด้านทันตกรรมที่ครบวงจรและได้รับการรองรับจากสถาบันต่างๆมากมาย จึงทำให้มั่นใจได้ว่าหากคุณใช้บริการกับทางคลินิกจะทำให้คุณมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน
17
พูดคุยทั่วไป / เหตุผลที่พนักงานประจำควรจะต้องมีประกันชีวิต
« กระทู้ล่าสุด โดย pitoon เมื่อ เมษายน 23, 2025, 03:48:41 PM »
มนุษย์เงินเดือนจะทำประกันชีวิตเพิ่มไปทำไม
พนักงานประจำ หรือ มนุษย์เงินเดือน  มีแค่ประกันกลุ่ม หรือ ประกันสังคมบางคนคิดว่าเพียงพอแล้ว จะทำประกันชีวิตเพิ่มทำไม สุขภาพยังแข็งแรงดีแค่ดูแลตัวเองดีๆ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าเราลาออกหรือเกษียณอายุแล้ว สวัสดิการทั้งหมดที่มีก็จบลงไปด้วย แต่ในเมื่อชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป และความเจ็บป่วยก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ยิ่งในอนาคตที่เราเริ่มมีอายุร่างกายก็อ่อนแอลงโรคร้ายต่างๆ ก็อาจจะเป็นได้ง่าย 
การทำประกันชีวิต หรือ ประกันสุขภาพ จึงเป็นตัวช่วยที่ดีและเราควรรีบวางแผนเอาไว้แต่เนิ่น ๆ เพื่อการรับมือกับปัญหาสุขภาพตั้งแต่วันที่ยังมีโอกาส เพราะหากเจ็บป่วยขึ้นมาเราก็ยังมีตัวช่วยในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล



ประกันชีวิต หรือ ประกันสุขภาพ เพิ่มจากสวัสดิการที่มีอยู่
เหตุผลที่พนักงานประจำ หรือ มนุษย์เงินเดือนอย่างเราควรทำประกันชีวิต หรือ ประกันสุขภาพเพิ่มจากสวัสดิการ จะมีอะไรบ้างนั่น มาดูกันเลย
 1. ประกันชีวิต ประกันสุขภาพเป็นสวัสดิการที่เลือกเองได้
สวัสดิการค่ารักษาพยาบาลที่บริษัทให้อาจไม่เพียงพอต่อค่ารักษาพยาบาลบางอย่าง เช่น ถ้าเราเป็นโรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน ก็จะสามารถเบิกได้บางส่วน นอกนั้นเราต้องเป็นคนที่ออกส่วนเกินของค่ารักษาพยาบาลเอง ดังนั้นการซื้อประกันชีวิต เสียชีวิตทุกกรณี หรือประกันสุขภาพนั้น เราสามารถเลือกได้เลยว่า ต้องการครอบคุมโรคใดบ้าง และได้รับวงเงินค่ารักษาพยาบาลเท่าไหร่เมื่อเราเกิดอุบัติเหตุ กรณีที่เราต้องนอนรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเป็นเวลานานประกันก็จะมีค่าชดเชยต่างๆ ให้ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นภาระทางการเงินของครอบครัว
 
2. เพิ่มทางเลือกในการวางแผนช่วงวัยเกษียณ
สวัสดิการของบริษัทก็จะมีแค่ประกันกลุ่ม หรือประกันสังคม ถ้าเกษียณไปแล้วสวัสดิการเหล่านี้ก็จะจบลงไปด้วยเหมือนกัน และเมื่อเราเข้าสู่วัยเกษียณแล้วแน่นอนร่างกายคงไม่แข็งแรงเหมือนเก่า เจ็บป่วยแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายสูง การมีประกันชีวิตและสุขภาพไว้ช่วยดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ การมีประกันโรคร้าย จึงถือเป็นการวางแผนรับมือค่ารักษาพยาบาลในอนาคตไว้อีกทาง โดยเฉพาะการเจ็บป่วยเรื้อรังจากโรคร้ายแรง อย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ที่มีค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาโดยไม่กระทบเงินออมยามเกษียณที่เราออมมาตลอดชีวิตอีกด้วย
 
3. เพื่อการออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิตในระยะยาว
การออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิตผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิต จะช่วยให้มีการออมในรูปแบบการประกันชีวิตอย่างมีระเบียบวินัยและมีความต่อเนื่อง ได้รับความคุ้มครองชีวิตพร้อมการออมเงินในรูปแบบการประกันชีวิตไปในตัว ช่วยให้เราอุ่นใจว่าในอนาคตว่าเราจะมีเงินเเละมีความคุ้มครองชีวิตของเราอยู่ อีกทั้งยังมีความแน่นอนของจำนวนเงินที่จะได้รับ ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เสียชีวิตผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินตามจำนวนเงินเอาประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดีในเรื่องของการกระจายความเสี่ยง

4. ลดหย่อนภาษีได้
การทำประกันชีวิตและสุขภาพไม่ใช่แค่ช่วยคุ้มครองแค่เรื่องค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วย แต่ค่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปนั้น สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย และการทำประกันนั้นสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 2 ส่วนคือ
สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนแรก
สำหรับเบี้ยประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ ที่มีความคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป และประกันสุขภาพ สามารถลดหย่อนรวมกันได้สูงสุด 100,000 บาทต่อปี ซึ่งในกรณีใช้สิทธิส่วนนี้ไม่ถึง 100,000 บาท สามารถนำเบี้ยประกันแบบบำนาญมารวม เพื่อให้ครบ 100,000 บาทได้

สิทธิลดหย่อนภาษีส่วนที่สอง
สำหรับเบี้ยประกันแบบบำนาญ สามารถลดหย่อนได้ไม่เกิน 15%ของรายได้ สูงสุด 200,000 บาทต่อปี และเมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กองทุนการออมแห่งชาติ และกองทุนสงเคราะห์ครูโรงเรียนเอกชนต้องไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี

มนุษย์เงินเดือนควรจะเริ่มต้นการวางแผนการเงินกับการรักษาพยาบาลเพราะบางทีการมีประกันกลุ่ม หรือประกันสังคมอาจไม่เพียงพอ ทางที่ดีควรทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพควบคู่กันไปด้วย หากใครกำลังสนใจทำประกันเราขอแนะนำประกันดีๆ จาก ไทยประกันชีวิต ที่มีให้เลือกทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ที่สำคัญสามารถทำผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ว

เลือกความคุ้มครองของประกันได้ตามงบประมาณที่เราพอใจ สามารถปรับรูปแบบตามความต้องการของเราได้ และความคุ้มครองจะเริ่มต้นทันทีที่ซื้อหลังจากได้รับอีเมลยืนยันกรมธรรม์ เพียงแค่นี้ เราก็จะมีตัวช่วยในการใช้ชีวิตให้เราอุ่นใจมากยิ่งขึ้น
18
ในบ้านของเรา วาล์วฝักบัว และ ก๊อกน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งในการอาบน้ำ การล้างมือ และการทำความสะอาดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ
การทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้มีความสำคัญในการควบคุมการไหลของน้ำ เพื่อให้เราได้รับความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่ดีที่สุด

หน้าที่หลักของก๊อกฝักบัว
1. การควบคุมน้ำไหล
วาล์วฝักบัวทำหน้าที่ควบคุมการไหลของน้ำผ่านฝักบัว น้ำร้อนไหลและน้ำเย็นสามารถถูกควบคุมได้ตามต้องการ ซึ่งช่วยให้เราสามารถอาบน้ำอย่างสะดวกสบาย
2. ระบบการผสมอุณหภูมิ
วาล์วฝักบัวที่มีคุณภาพจะมีระบบการผสมอุณหภูมิที่ทำให้ผู้ใช้งานได้รับอุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสม โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนบ่อยๆ
3. ความปลอดภัย
การใช้วาล์วฝักบัวที่มีระบบป้องกันน้ำร้อนเกินไปจะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกน้ำร้อนทำให้เกิดบาดแผล



หน้าที่ของก๊อกน้ำ
1. จ่ายน้ำตามต้องการ
ก๊อกน้ำทำหน้าที่ในการจ่ายน้ำได้อย่างรวดเร็วและสะดวก โดยสามารถเปิด-ปิดได้ง่ายตามต้องการ
2. ประหยัดน้ำ
ก๊อกน้ำที่มีคุณภาพมักมีเทคโนโลยีที่ช่วยในการประหยัดน้ำ ไม่ให้มีการใช้น้ำที่สูญเสียไปโดยใช่เหตุ ทำให้คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายในบิลน้ำได้
3. การออกแบบที่ใช้งานง่าย
ก๊อกน้ำมีหลากหลายรูปแบบและการออกแบบที่ใช้งานง่าย ทำให้เข้ากับการใช้งานในแต่ละบ้านและสไตล์การตกแต่ง

หน้าที่ของก๊อกฝักบัว
1. ความสะดวกสบายในการอาบน้ำ
ก๊อกฝักบัวจะช่วยให้การอาบน้ำทำได้อย่างสะดวก โดยน้ำสามารถไหลได้อย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
2. ประสิทธิภาพในการทำความสะอาด
ก๊อกฝักบัวมีการกระจายของน้ำที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด ทำให้คุณสามารถล้างสบู่และแชมพูได้อย่างง่ายดาย
3. การติดตั้งที่ยืดหยุ่น
ก๊อกฝักบัวมักถูกออกแบบให้สามารถติดตั้งได้ง่ายและมีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการปรับความสูงตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับทุกคนในครอบครัว

วาล์วฝักบัว ก๊อกน้ำ และก๊อกฝักบัวมีหน้าที่สำคัญในการทำให้ชีวิตประจำวันของเราสะดวกสบายและปลอดภัย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งาน
คำแนะนำในการเลือกซื้อ
    ตรวจสอบคุณภาพ - ควรเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและรีวิวดี
    ดูวัตถุดิบ - วัสดุที่ใช้ต้องมีความทนทานต่อการใช้งาน
    พิจารณาการติดตั้ง - วาล์วฝักบัวและก๊อกน้ำควรติดตั้งง่ายและเหมาะกับสไตล์ของห้องน้ำ
การเข้าใจในหน้าที่และความสำคัญของวาล์วฝักบัว ก๊อกน้ำ และก๊อกฝักบัวจะช่วยให้คุณสามารถเลือกอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้อย่างเหมาะสมที่สุด
19
ทำไมฉนวนกันความร้อน STAY COOL จึงกันความร้อนให้บ้านได้ดีเวอร์

STAY COOL คือผลิตภัณฑ์ฉนวนกันความร้อน ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้ใช้ติดตั้งสำหรับฝ้าเพดานโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญในการสะสมความร้อนจากภายนอก ที่นำไปสู่การทำให้บ้านร้อนอบอ้าว และค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันฉนวนกันความร้อนรุ่น STAY COOL ถือว่าได้รับความไว้วางใจจากผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก เพราะติดตั้งแล้วทำให้บ้านเย็นขึ้นได้จริง โดย 3 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ฉนวนกันความร้อน STAY COOL นั้น กันความร้อนได้ดี และทำให้บ้านเย็นได้มากขึ้นกว่าฉนวนกันความร้อนอื่นๆ ทั่วไป ได้แก่

ผลิตจากใยแก้ว ที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี

ฉนวนกันความร้อน เป็นฉนวนกันความร้อนประเภทใยแก้ว ที่ผลิตคิดค้นและพัฒนาขึ้นมาจากแก้วรีไซเคิล ผ่านนวัตกรรมการผลิตที่ทำให้เกิดโพรงอากาศเป็นจำนวนมากเพื่อชะลอความร้อน (Extra Heat Protection With The Glass Wool Innovation) ทำให้มีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนได้ดี และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย


1.หุ้มด้วยอลูมิเนียมฟอยล์สะท้อนความร้อน จึงกันความร้อนได้ดีขึ้น

เนื้อฉนวนกันความร้อน จะได้รับการหุ้มรอบด้านด้วยแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์แท้ จึงทำให้เพิ่มคุณสมบัตในการสะท้อนความร้อนได้มากถึง 95% เพื่อผนวกรวมกับความสามารถในการกันความร้อนได้ดีของใยแก้วแล้ว จึงยิ่งส่งเสริมให้กันความร้อนได้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้บ้านเย็นมากขึ้นอย่างรู้สึกได้ ทั้งนี้ การหุ้มด้วยอลูมิเนียมฟอยล์นั้น ยังส่งผลให้ฉนวนมีความทนทานแข็งแรงเป็นพิเศษ จึงทำให้คงสภาพของความเป็นฉนวนกันความร้อนได้อย่างยาวนานและคุ้มค่า


2.เนื้อฉนวนกันความร้อนหนาพิเศษ จึงยิ่งกันความร้อนได้ดีเป็นพิเศษ

หลักการของการกันความร้อนได้ดีนั้น จะพิจารณาจากค่า R หรือ ค่าในการต้านทานความร้อนเป็นสำคัญ ซึ่งยิ่งฉนวนกันความร้อนมีค่า R มากเท่าไร ก็ยิ่งกันความร้อนได้ดีมากเท่านั้น ทั้งนี้ ค่า R ได้มาจาก ค่าความหนาของฉนวนเป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วยค่า K หรือค่าการนำพาความร้อนของวัสดุนั้น นั่นจึงทำให้ฉนวนชนิดไหนที่มีความหนามากๆ และมีค่า K น้อยๆ ก็จะมีค่า R หรือกันความร้อนได้ดีนั่นเอง ซึ่งสำหรับ ฉนวนกันความร้อน นั้น ถือว่าเป็นฉนวนกันความร้อนที่มีความหนาเป็นพิเศษ และมีค่า R ที่สูงกว่าฉนวนกันความร้อนอื่นทั่วไป โดย ฉนวนกันความร้อน STAY COOL รุ่น หนา 75 มม. นั้น มีค่า R อยู่ที่ 10.0 และ รุ่น หนา 150 มม. นั้น มีค่า R อยู่ที่ 20.0

ด้วยคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนและสะท้อนความร้อนได้ดีของ ฉนวนกันความร้อน จึงทำให้เมื่อติดตั้งที่ฝ้าเพดานของที่อยู่อาศัยแล้ว สามารถป้องกันความร้อนได้ดีกว่าเดิมถึง 6 เท่า สะท้อนความร้อนได้มากถึง 95% ประหยัดไฟได้เพิ่มมากขึ้นประมาณ 47% และทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเย็นขึ้นอย่างรู้สึกได้ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะลดลงประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส ซึ่งเพราะผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพนี้เอง จึงทำให้ STAY COOL เป็นฉนวนกันความร้อนที่ได้รับความนิยม
20
พูดคุยเรื่อง งานอดิเรกต่างๆ / Doctor At Home: หลอดเลือดอัณฑะขอด (Varicocele)
« กระทู้ล่าสุด โดย siritidaphon เมื่อ เมษายน 21, 2025, 06:07:28 PM »
Doctor At Home: หลอดเลือดอัณฑะขอด (Varicocele)

หลอดเลือดอัณฑะขอด หมายถึง ภาวะกลุ่มหลอดเลือดดำ (ที่มีชื่อว่า anterior spermatic plexus) ที่บริเวณถุงอัณฑะเกิดการพองตัวหรือขอดซึ่งเป็นผลจากลิ้นปิดเปิดในหลอดเลือดดำบกพร่องหรือหย่อนสมรรถภาพทำให้เลือดไหลย้อนกลับ

พบบ่อยในเด็กวัยรุ่น (ประมาณร้อยละ 16 ของเด็กอายุ 10-19 ปี) และพบว่าผู้ชายที่เป็นหมัน (มีบุตรยาก) จะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชายที่ไม่ได้เป็นหมัน (ผู้ชายที่เป็นหมันอาจพบโรคนี้ถึงร้อยละ 40)

ประมาณร้อยละ 85 ของผู้ป่วยจะเป็นที่ถุงอัณฑะข้างซ้าย เนื่องจากลักษณะทางกายวิภาคของระบบหลอดเลือดดำของอัณฑะข้างซ้ายนี้มีลักษณะแตกต่างจากข้างขวาและมีปัจจัยเอื้อต่อการเกิดหลอดเลือดขอดมากกว่าข้างขวา*

หลอดเลือดขอดที่ถุงอัณฑะข้างซ้าย มักไม่มีสาเหตุอื่น ๆ ร่วมด้วย แต่ถ้าเป็นข้างขวา อาจมีสาเหตุอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น เนื้องอกในช่องท้อง

*เนื่องจากหลอดเลือดดำของอัณฑะซ้ายเชื่อมต่อกับหลอดเลือดดำไต (renal vein) โดยเป็นมุมฉาก ทำให้การไหลเวียนเลือดในบริเวณนั้นสะดวกน้อยกว่าหลอดเลือดดำของอัณฑะขวาที่เชื่อมต่อกับท่อเลือดดำ (inferior vena cava) โดยตรง


สาเหตุ

ยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการเกิดโรคนี้


อาการ

ผู้ป่วยจะสังเกตเห็นถุงอัณฑะโต คลำดูมีลักษณะหยุ่น ๆ นุ่ม ๆ และมีสีคล้ำแบบหลอดเลือดดำ เมื่อนอนลงอาจยุบลงได้ อาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นไส้เลื่อน

ส่วนมากจะไม่มีอาการแสดง บางรายอาจรู้สึกปวดหน่วง ๆ โดยเฉพาะเวลาอากาศร้อน หรือหลังออกกำลังกายหรือทำงาน มักปวดมากขึ้นตอนบ่าย ๆ ถึงค่ำ ๆ และทุเลาเมื่อนอนราบ

ส่วนใหญ่มักเป็นเพียงข้างเดียว ส่วนน้อยอาจเป็นทั้ง 2 ข้าง


ภาวะแทรกซ้อน

อาจทำให้อัณฑะข้างที่เป็นหลอดเลือดขอดฝ่อตัว หรือเป็นหมัน เนื่องจากมีการผลิตอสุจิได้น้อยลง


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและการตรวจร่างกายเป็นหลัก บางรายแพทย์จะทำการวินิจฉัยให้แน่ชัด โดยการตรวจอัลตราซาวนด์


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

ถ้าไม่มีอาการแสดง ก็ไม่ต้องให้การรักษาแต่อย่างใด บางรายอาจหายได้เอง เมื่ออายุมากขึ้น

ถ้ามีอาการปวดหน่วง แนะนำให้ผู้ป่วยใส่กางเกงในรัด ๆ และกินยาบรรเทาปวด

ถ้ามีอาการปวดมากหรือเป็นหมัน (พบว่าหลอดเลือดอัณฑะขอดเป็นสาเหตุสำคัญอันหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายเป็นหมันได้) หรือหลอดเลือดที่ถุงอัณฑะ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นข้างขวา) ที่อยู่ ๆ เกิดขอดขึ้นมาอย่างฉับพลันในผู้ที่อายุมาก (อาจมีสาเหตุผิดปกติในช่องท้อง เช่น ก้อนเนื้องอกของไต) ควรปรึกษาแพทย์ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะเพื่อตรวจพิเศษเพิ่มเติม (เช่น อัลตราซาวนด์) และอาจต้องทำการผ่าตัดแก้ไข บางรายอาจผ่าตัดโดยวิธีส่องกล้อง หรือทำ percutaneous embolization

ในรายที่เป็นหมัน หลังการรักษาด้วยการผ่าตัดอาจช่วยให้มีบุตรได้

การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น อัณฑะบวม มีก้อนที่อัณฑะ อัณฑะ 2 ข้างมีขนาดต่างกัน หรือผู้ชายเป็นหมัน ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นหลอดเลือดอัณฑะขอด ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา กินยา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด

ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    มีอาการปวดท้อง ปวดอัณฑะมาก อัณฑะเป็นก้อนแข็งหรือบวมแดง
    ในรายที่แพทย์รักษาด้วยการผ่าตัด หลังผ่าตัด อัณฑะมีการอักเสบบวมแดง หรือมีเลือดออกในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

ยังไม่มีวิธีป้องกันที่ได้ผล เนื่องจากโรคนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด

ข้อแนะนำ

ผู้ชายที่เป็นหมัน ควรปรึกษาแพทย์ อาจเกิดจากหลอดเลือดอัณฑะขอด ซึ่งหลังผ่าตัดอาจช่วยให้มีบุตรได้
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10