ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

คลิกที่นี่เพื่ออัพโหลดรูป

Verification:
Type the letters shown in the picture
Listen to the letters / Request another image

Type the letters shown in the picture:
พิมพ์หรือคัดลอกคำว่า "ปืนบีบี" ลงในช่องด้านล่าง:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: patthana
« เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 04:37:20 PM »


การที่กรมธรรม์ประกันชีวิตครบกำหนดสัญญาถือเป็นช่วงเวลาแห่งความยินดี เพราะหมายถึงกำลังจะได้รับเงินผลประโยชน์ตามที่วางแผนไว้ แต่เพื่อให้กระบวนการรับเงินคืนเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด และไม่เสียเวลาในการดำเนินการหลายครั้ง การ ขอรับ เงินครบกําหนดสัญญา ไทย ประกันชีวิตการเตรียมตัวล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ

1.วันครบกำหนดสัญญา และเงื่อนไขการรับเงิน
ตรวจสอบวันครบกำหนดจริง: ดูจากหน้าตารางกรมธรรม์ว่า "วันครบกำหนดสัญญา" ตรงกับวันที่เท่าไหร่ของปีใด เพื่อเตรียมเอกสารล่วงหน้า
เงื่อนไขการจ่ายเงิน: บริษัทประกันส่วนใหญ่อาจเริ่มดำเนินการจ่ายผลประโยชน์ได้ หลังจาก วันที่สัญญามีผลครบกำหนดแล้วเท่านั้น การยื่นเอกสารเร็วเกินไปอาจทำให้เอกสารค้างรอการดำเนินการ
รูปแบบการจ่ายเงิน: ตรวจสอบว่าเงินคืนจะถูกจ่ายเป็นเช็ค หรือการโอนเงินเข้าบัญชี (การโอนเงินมักจะรวดเร็วที่สุด)



2.เตรียมเอกสารหลักฐานให้ "ครบถ้วนและถูกต้อง"
การยื่นเอกสารไม่ครบถ้วนเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้การจ่ายเงินล่าช้า โดยเอกสารหลักที่มักจำเป็นต้องใช้ มีดังนี้:
แบบฟอร์มเรียกร้องผลประโยชน์: กรอกข้อมูลและลงลายมือชื่อให้ตรงกับลายมือชื่อในกรมธรรม์
กรมธรรม์ประกันชีวิต (ฉบับจริง): สำคัญมาก หากสูญหายต้องรีบติดต่อบริษัทเพื่อทำเรื่องแจ้งความกรมธรรม์สูญหายก่อน
บัตรประชาชน: สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เอาประกันภัย พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
บัญชีธนาคาร: สำเนาสมุดบัญชีธนาคารสำหรับโอนเงิน (ควรเป็นบัญชีชื่อผู้เอาประกันภัยเท่านั้น)

3.ตรวจสอบลายมือชื่อและข้อมูลส่วนตัว
ลายมือชื่อต้องตรง: ลายมือชื่อที่ลงในแบบฟอร์มเรียกร้องผลประโยชน์ต้อง ตรงกัน กับลายมือชื่อที่เคยให้ไว้กับบริษัทประกันตั้งแต่ตอนขอเอาประกันครั้งแรก หากลายเซ็นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด อาจต้องมีการยืนยันตัวตนเพิ่มเติม
กรณีเปลี่ยนชื่อ-สกุล: หากมีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลหลังจากทำประกัน ต้องเตรียม สำเนาใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อ-สกุล มาประกอบการยื่นขอรับเงินด้วย

4.ติดต่อตัวแทนหรือบริษัทล่วงหน้า
ขอคำแนะนำ: หากไม่มั่นใจว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง หรือวิธีการกรอกแบบฟอร์มอย่างไร ให้ติดต่อ ตัวแทนประกันชีวิต ที่ดูแลโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เขาช่วยตรวจสอบความถูกต้องและอำนวยความสะดวกในการยื่นเอกสาร
ยืนยันที่อยู่ปัจจุบัน: ตรวจสอบกับบริษัทว่าข้อมูลที่อยู่และช่องทางการติดต่อเป็นปัจจุบัน เพื่อให้บริษัทสามารถส่งเอกสารหรือติดต่อกลับหากมีข้อสงสัย

5. ภาษีที่เกี่ยวข้องกับการรับเงิน (ถ้ามี)
โดยปกติแล้ว ผลประโยชน์ที่ได้รับจากกรมธรรม์ประกันชีวิตเมื่อครบกำหนดสัญญา ไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อย่างไรก็ตาม:
ดอกเบี้ย/ผลตอบแทนจากกรมธรรม์: หากมีการรับผลประโยชน์ที่เข้าข่ายดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนจากการลงทุน (เช่น ในกรณีของประกันควบการลงทุน) อาจมีส่วนที่ต้องเสียภาษีตามกฎหมาย (ผู้รับเงินควรสอบถามรายละเอียดกับบริษัทประกันหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี)

การเตรียมเอกสารให้พร้อมตามขั้นตอนเหล่านี้ จะช่วยให้ได้รับเงินครบกำหนดสัญญาอย่างรวดเร็วและครบถ้วนตามที่คาดหวังไว้ หากกรมธรรม์ของใกล้ครบกำหนดแล้ว อย่าลังเลที่จะติดต่อบริษัทประกันของทันทีเพื่อเริ่มดำเนินการ