ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

คลิกที่นี่เพื่ออัพโหลดรูป

Verification:
Type the letters shown in the picture
Listen to the letters / Request another image

Type the letters shown in the picture:
พิมพ์หรือคัดลอกคำว่า "กล้องถ่ายรูป" ลงในช่องด้านล่าง:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: patthana
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 03:36:18 PM »


นอกเหนือจากอายุและสุขภาพแล้ว อาชีพ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่บริษัทประกันใช้ในการพิจารณาความเสี่ยงและกำหนดอัตรา เบี้ยประกันชีวิต เนื่องจากอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงต่อการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตในขณะปฏิบัติงาน จะทำให้บริษัทต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงกว่า

1. การจัดกลุ่มอาชีพและความเสี่ยงต่อ เบี้ยประกันชีวิต
บริษัทประกันจะจัดกลุ่มอาชีพออกเป็นหมวดหมู่ตามระดับความเสี่ยง โดยมีผลต่อการเรียกเก็บ เบี้ยประกันชีวิต และสัญญาเพิ่มเติม (โดยเฉพาะอุบัติเหตุ):

กลุ่ม 1 (ความเสี่ยงต่ำที่สุด): อาชีพสำนักงาน, ผู้บริหาร, ครูอาจารย์, แพทย์ (ทำงานในคลินิก/โรงพยาบาลทั่วไป) มักได้รับเบี้ยอัตรามาตรฐาน
กลุ่ม 2 (ความเสี่ยงปานกลาง): พนักงานขายที่ต้องเดินทางบ่อย, วิศวกรควบคุมงานในสำนักงาน, เชฟในร้านอาหาร
กลุ่ม 3 (ความเสี่ยงสูง): ช่างเทคนิคที่ต้องปีนที่สูง, ผู้รับเหมา, ช่างซ่อมรถ, อาชีพที่ต้องใช้เครื่องจักรหนัก เบี้ยประกันจะเพิ่มขึ้น (Rated-up) หรือมีการจำกัดวงเงินความคุ้มครอง
กลุ่ม 4 (ความเสี่ยงสูงสุด/ไม่อนุญาต): นักบินผาดโผน, นักประดาน้ำเชิงพาณิชย์, ทหารที่ปฏิบัติการภาคสนาม, นักข่าวในพื้นที่สงคราม มักถูกปฏิเสธการรับประกัน หรือมีการเรียกเก็บ เบี้ยประกันชีวิต สูงมากเป็นพิเศษ



2. อาชีพอิสระ (Freelance) กับการพิจารณาเบี้ย
สำหรับกลุ่ม อาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ การพิจารณา เบี้ยประกันชีวิต จะขึ้นอยู่กับ ลักษณะงานจริงที่ทำ:
ฟรีแลนซ์สายออฟฟิศ (นักเขียน, นักแปล): จัดอยู่ในกลุ่ม 1 หรือ 2
ฟรีแลนซ์สายกิจกรรม (ครูสอนดำน้ำ, ช่างภาพที่ต้องเดินทางบ่อย): อาจถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่สูงขึ้น

3. ผลกระทบต่อ เบี้ยประกันชีวิต และสัญญาเพิ่มเติม
เบี้ยประกันหลัก (ชีวิต): อาชีพเสี่ยงสูงจะมีการเพิ่มเบี้ยหลัก (Loading Premium) เพื่อให้ครอบคลุมความเสี่ยงการเสียชีวิตจากการทำงาน
สัญญาเพิ่มเติม (อุบัติเหตุ): สัญญาเพิ่มเติมความคุ้มครองอุบัติเหตุจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยอาจมีการปฏิเสธการขายหรือเพิ่มเบี้ยสูงมากสำหรับกลุ่ม 3 และ 4

เมื่อซื้อประกัน ต้องแถลงอาชีพอย่างละเอียดและตรงไปตรงมา การเปลี่ยนอาชีพในภายหลังก็ควรแจ้งให้บริษัททราบ เพราะหากมีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในอาชีพที่แถลงต่ำกว่าความเป็นจริง บริษัทประกันอาจพิจารณาลดจำนวนเงินสินไหมที่จ่าย