ตอบ

ชื่อ:
อีเมล์:
หัวข้อ:
ไอค่อนข้อความ:

คลิกที่นี่เพื่ออัพโหลดรูป

Verification:
Type the letters shown in the picture
Listen to the letters / Request another image

Type the letters shown in the picture:
พิมพ์หรือคัดลอกคำว่า "กล้องถ่ายรูป" ลงในช่องด้านล่าง:

shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง


สรุปหัวข้อ

ข้อความโดย: patthana
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 04:40:45 PM »


การสร้างมรดกไม่ใช่เพียงการสะสมทรัพย์สิน แต่คือการวางแผนส่งต่อความมั่นคงทางการเงินและความรักให้กับคนที่คุณรักได้อย่างไร้รอยต่อ กรมธรรม์ประกันชีวิต จึงเป็นเครื่องมือสำคัญและทรงพลังที่สุดในการ สร้างมรดก อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามเจตนารมณ์
บทความนี้จะเจาะลึกว่ากรมธรรม์ประกันชีวิตทำงานอย่างไรในการเป็นมรดก และมีข้อดีอย่างไรที่เหนือกว่าการส่งต่อทรัพย์สินในรูปแบบอื่น

ทำไมประกันชีวิตจึงเป็น "มรดก" ที่ดีที่สุด กรมธรรม์ประกันชีวิตทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการส่งต่อมรดกโดยเฉพาะ มีข้อดีที่โดดเด่นเหนือสินทรัพย์อื่น ดังนี้:

1. เงินก้อนใหญ่ที่ส่งต่อได้ทันที (Immediate Liquidity)
เมื่อผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับ เงินสินไหมทดแทน (Death Benefit) เป็นเงินก้อนตามจำนวนทุนประกันที่ทำไว้ ซึ่งโดยปกติจะดำเนินการจ่ายได้ รวดเร็ว กว่าการจัดการทรัพย์สินอื่นๆ ที่ต้องผ่านกระบวนการทางศาล หรือการแบ่งปันทรัพย์สิน
• ความสำคัญ: เงินก้อนนี้ช่วยให้ครอบครัวที่เหลืออยู่มีสภาพคล่องทางการเงินทันที เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ชำระหนี้สิน หรือค่าใช้จ่ายพิธีศพ โดยไม่ต้องรอการขายหรือแบ่งทรัพย์สินอื่นที่ต้องใช้เวลา



2. ได้รับเงินเต็มจำนวนโดย ปลอดภาษีมรดก
ตามกฎหมายของประเทศไทย เงินสินไหมทดแทนที่ได้รับจากกรมธรรม์ประกันชีวิตนั้น ไม่ต้องนำมาคำนวณเป็นฐานภาษีมรดก (หากเป็นเงินที่บริษัทประกันจ่ายให้ผู้รับผลประโยชน์โดยตรง) และยัง ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ด้วย
• ความสำคัญ: ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินเต็มจำนวนตามที่ระบุในกรมธรรม์อย่างแท้จริง ทำให้เงินมรดกไม่ถูกลดทอนมูลค่าลงไป

3. ความแน่นอนและเป็นส่วนตัว (Privacy & Certainty)
กรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นการทำสัญญาส่วนตัวระหว่างผู้เอาประกันกับบริษัทประกันภัย ซึ่งมีผลผูกพันทางกฎหมาย
• ความแน่นอน: จำนวนเงินที่ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับถูก กำหนดไว้ตายตัว ตั้งแต่วันทำสัญญา (ตามทุนประกัน)
• ความเป็นส่วนตัว: การส่งต่อมรดกผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตจะ ไม่เข้าสู่กระบวนการพินัยกรรม หรือการจัดการทรัพย์สินของกองมรดกตามปกติ ทำให้การส่งต่อรวดเร็วและเป็นส่วนตัว

ขั้นตอนการวางแผนมรดกด้วยกรมธรรม์ประกันชีวิต การใช้ประกันชีวิตเพื่อสร้างมรดกต้องมีการวางแผนที่ชัดเจน:

1. ประเมินมูลค่ามรดกที่ต้องการ: คำนวณความต้องการทางการเงินของครอบครัวที่เหลืออยู่ (เช่น หนี้สิน, ค่าครองชีพ, ค่าเล่าเรียนบุตร) แล้วกำหนด ทุนประกัน ให้ครอบคลุมความต้องการนั้น
2. ระบุผู้รับผลประโยชน์ให้ชัดเจน: สิ่งสำคัญที่สุดคือการระบุชื่อผู้รับผลประโยชน์ให้ครบถ้วนและชัดเจนในกรมธรรม์ และควรแจ้งให้บุคคลนั้นทราบถึงการมีอยู่ของกรมธรรม์
3. เลือกประเภทประกันที่เหมาะสม:
o ประกันชีวิตตลอดชีพ (Whole Life): เหมาะสำหรับสร้างมรดก เพราะให้ความคุ้มครองยาวนานจนถึงอายุ 90-99 ปี
o Unit Linked (ยูนิต ลิงค์): เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างมรดกที่มีโอกาสเติบโตสูงขึ้นจากการลงทุนในกองทุนรวม