ข้อมูลส่วนตัว

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - panne rattana

หน้า: [1] 2
1

อาหารจัดว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย จึงมีการกำหนดอาหารขึ้นเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิต ดังนั้นคนทุกคนจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารเพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไป หากมีลูกค้าซึ่งอาจเป็นคนไทย ชาวต่างประเทศ หรือนักท่องเที่ยวเข้ามารับประทานอาหารในร้านเป็นจำนวนมาก ย่อมทำให้มีการรับประทานอาหารมากขึ้น ซึ่งหมายถึงงานมากขึ้นและรายได้สำหรับพนักงานจะมากขึ้น




อาหารคืออะไร?
อาหาร คือ สิ่งต่างๆ ที่เรารับประทานเข้าไป โดยการใส่ปาก เคี้ยว กลืนและย่อยเพื่อให้ดูดซึมไปบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงอาหารใจเมื่อได้รับประทานเข้าไปจะรู้สึกพอใจ ประทับใจ




อาหารที่ดี คืออาหารที่สะอาด ไม่เป็นพิษ มีรสชาติอร่อยซึ่งมาพร้อมกับการบริการที่ดี ประทับใจ สามารถเชิญชวนให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการได้ในครั้งต่อๆ ไป




อาหารไม่ดี คือ อาหารที่ไม่สะอาดเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วทำให้ร่างกายได้รับอันตราย อาจเจ็บป่วยหรือเป็นโรคได้ รวมถึงการบริการที่ไม่ดี ขาดการเอาใจใส่




สารอาหารถูกจำแนกให้เป็น 6 หมู่หลักตามองค์ประกอบทางเคมี คือ
หมู่ที่ 1 โปรตีน พบใน เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต พบใน ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน
หมู่ที่ 3 เกลือแร่หรือแร่ธาตุ มีอยู่ใน พืชผัก
หมู่ที่ 4 วิตามิน มีอยู่ใน ผลไม้
หมู่ที่ 5 ไขมัน ไขมันจากพืชและสัตว์
หมู่ที่ 6 น้ำ
ผู้ประกอบอาหารควรคำนึงถึงการปรุงอาหารที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารครบถ้วนตามสัดส่วนที่ควรได้รับในแต่ละวัย




นอกจากนี้ ผู้ประกอบอาหารควรคำนึงถึงใยอาหารซึงเป็นคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยช่วยการขับถ่าย จับไขมันจากอาหาร ลดการดูดซึมพวกน้ำตาล ป้องกันมะเร็งในลำใส้ ป้องกันโรคริดสีดวงทวาร และป้องกันโรคลำไส้โป่งพอง คนเราควรได้รับใยอาหารวันละ25กรัม ใยอาหารพบมากใน ผักต่างๆและผลไม้บางชนิด








การบริการอาหารและเครื่องดื่ม คลิ๊กที่นี่ http://snss.co.th/dt_post/catering-service/

2

ขึ้นชื่อว่า อาหารคลีน (Clean Food) หลายคนคงได้ยินกันบ่อยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ อาหารคลีนไม่ใช่กินแต่สลัดผัก อาหารที่ผัดโดยใช้น้ำมันมะกอก ก็เรียกเป็นอาหารคลีนทั้งนั้น จริงๆแล้ว อาหารคลีนคือ อาหารที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ นำมาผ่านการปรุงแต่งโดยผ่านกระบวนการที่น้อยที่สุด แต่ถ้าให้ดูลึกๆจริงๆแล้ว วัตถุดิบที่คัดสรรมาจำเป็นต้องมีคุณภาพ หลายคนต้องการลดน้ำหนัก เห็นสลัดที่จัดเป็นชุดๆ น่าทาน


เมื่อทานแล้วรู้สึกว่าวันนี้ได้ทานอาหารคลีนเข้าไปแล้ว สิ่งที่ได้แน่นอนคือคาร์โบไฮเดรตและเส้นใยจากผัก แต่สิ่งที่แฝงและอาจทำให้อาหารนั้นไม่คลีนจริงคือองค์ประกอบของสลัดนั้น เช่น ใส่ไส้กรอก เบคอน หมูยอ หรือที่มาของน้ำสลัดเอง ดังนั้นหาจะให้แน่ใจว่าได้รับอาหารคลีนจริง อาจต้องอาศัยการทำอาหารทานเองและเพ็งพินิจว่าแต่ละส่วนมาจากไหน ฟังดูอาจทำให้ชีวิตยุ่งยากขึ้น เพื่อให้การดำรงชีพเป็นไปอย่างปกติและรับประทานอาหารที่คลีนได้อย่างสบาย อาจต้องกลับมาดูวัตถุดิบให้เป็นว่าอะไรคลีนอะไรไม่คลีน อาหารที่ไม่คลีน คืออาหารที่เอาวัตถุดิบธรรมชาติไปผ่านการแปรรูปปรุงแต่งต่างๆนานเพื่อให้น่ากินและอร่อย เช่น


เนื้อสัตว์แปรรูป มีได้ต้องแต่ ลูกชิ้น ไส้กรอก โบโลน่า แฮม เบคอน กุนเชียง โดยเฉพาะพวกไก่บด เนื้อบดที่อัดแท่งขาย บางครั้งผู้ผลิตต้องการให้ผลิตภัณฑ์อร่อยจึงต้องมีการปรุงแต่งรสชาติและไขมันลงไปเพื่อให้เกิดความนุ่มเวลาทาน หากบางคนเคยทานกุนเชียงจะเห็นได้ชัดเจนว่า กุนเชียงไหนสีขาวๆ มีก้อนเล็กๆสีขาวๆ (ไขมัน) ปนอยู่เยอะ กุนเชียงนั้นจะนิ่มเวลานำไปทอดจะมีน้ำมันเยิ้มให้เห็น แต่ถ้าเป็นกุนเชียงที่มีมันน้อย เนื้อกุนเชียงก็จะแข็งกระด้าง


คาร์โบไฮเดรตขัดสี ด้วยความที่เรารับประทานข้าวขัดขาวมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เกิดความเคยชิน สิ่งที่เรารับประทานเข้าไปเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานเร็ว หากใช้ไม่หมดก็จะแปลงเป็นไขมันสะสมกันต่อไป แถมส่วนที่มีประโยชน์เช่นไฟเบอร์และวิตามินก็ถูกขัดเกลี้ยงออกไป ดังนั้นข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี เช่นข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง หรือข้าวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเช่น ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด เป็นสิ่งที่ควรหามาบริโภค




อาหารคลีน (CLEAN FOOD) ใครๆ ก็อยากลอง คลิ๊กที่นี่ http://www.สุขภาพดี.net/อาหารคลีน/

3
พูดคุยทั่วไป / ฉนวนกันเสียง สำคัญอย่างไร
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 15, 2019, 12:11:57 PM »

ฉนวนกันเสียง สำคัญมากสำหรับผู้อยู่อาศัยหรือผู้ใช้งานอาคาร โรงงานหรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่ประสบปัญหาด้านเสียง ทั้งเรื่องเสียงดังเกินกว่ากฎหมายกำหนด เสียงก้อง และ เสียงสะท้อนภายในอาคาร


เสียงจากการทำงานของเครื่องจักรในโรงงาน และเสียงรบกวนภายในห้องอัดเสียง หรือ ห้องบันทึกเทปโทรทัศน์ เป็นต้น ฉนวนกันเสียงที่ดี และได้รับการออกแบบไว้อย่างถูกต้อง จะช่วยลด ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียง ให้หมดไป หรือลดน้อยลงไปจนรู้สึกได้


การดูดซับเสียงหรือการควบคุมเสียงสะท้อน (Sound Absorption) การออกแบบห้องที่ต้องการลดเสียงสะท้อน เช่น ห้องประชุม, โรงละคร, โรงภาพยนตร์, ห้องบรรยาย, ห้องดูหนัง – ฟังเพลง, ห้องคาราโอเกะ


หากมีเสียงสะท้อน หรือเสียงก้องเกิดขี้น จะทำให้ประสิทธิภาพของเสียงที่หูของผู้ฟังได้ยินอาจลดประสิทธิภาพลงไป ดังนั้นต้องออกแบบให้มีวัสดุที่สามารถดูดซับเสียงได้ดี เพื่อป้องกันเสียงที่มากระทบฝ้าเพดาน พื้น ผนัง โดยสามารถดูได้จากค่า NRC ซึ่งเป็นค่าที่ระบุความสามารถการดูดซับเสียงของวัสดุต่าง ๆ


วัสดุทุกชนิดสามารถดูดซับเสียงได้ในระดับที่แตกต่างกันไป เมื่อคลื่นเสียงวิ่งกระทบวัสดุ จะมีบางส่วนของพลังงานเสียงถูกดูดซับและที่เหลือจะสะท้อนออกไป และเสียงที่สะท้อนออกไปนั้นจะมีพลังงานน้อยกว่าแหล่งกำเนิดเสียงเสมอ และพลังงานเสียงที่ถูกดูดซับเข้าไปจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นพลังงานรูปอื่น โดยทั่วไปจะเป็นความร้อน และจำนวนพลังงานที่ถูกดูดซับเข้าไปจะถูกแสดงในรูปของสัมประสิทธิ์การดูดซับเสียง (Sound Absorption Coefficient) คือค่าที่แสดงความสามารถในการดูดซับเสียงของวัสดุ ถ้าหากใช้วัสดุที่ดูดซับเสียงไม่ดีจะทำให้เกิดเสียงก้องภายในห้องนั้น ๆ ได้




ฉนวนกันเสียง สำคัญอย่างไร คลิ๊กที่นี่ https://www.ฉนวนกันเสียง.com/ฉนวนกันเสียงดัง/

4

ภูทอก หรือวัดเจติยาคีรีวิหาร วัดภูทอกก่อตั้งขึ้นโดย พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เพื่อให้เป็นสถานบำเพ็ญเพียรภาวนาปฎิบัติธรรม ของพระภิกษุ สามเณรและผู้ที่ตั้งใจมาปฏิบัติธรรม จุดเด่นของภูทอกคือภูเขาหินทรายที่เต็มไปด้วยหน้าผาหิน มีสะพานไม้และบันไดขึ้นชมทัศนียภาพรอบๆ แบบ 360 องศา มีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 5 ปี เปรียบดั่งดินแดนสวรรค์ 7 แบ่งเป็นภูทอกใหญ่ และภูทอกน้อย ภูทอกที่เราสามารถขึ้นไปปฏิบัติธรรม และชมทัศนียภาพโดยรอบได้คือภูทอกน้อย ส่วนภูทอกใหญ่ยังไม่เปิดให้เข้าไป


สะพานและบันไดเวียนรอบภูทอกสร้างจากไม้ปักไปในหิน พื้นที่บางส่วนตรงข้างล่างสะพานจะมีเหล็กยึดเจาะเข้าไปในหินอีกที ต้องยกย่องในความสามารถของผู้ที่สร้างขึ้นด้วยวิธีแบบชาวบ้าน ไม่มีวิศวกรและเครื่องจักรใดๆ ทั้งสิ้น จากชั้น 4 ขึ้นไปชั้น 5 จะเป็นบันไดสูงชัน ชั้น 5 เป็นที่ตั้งของถ้ำพระวิหาร ข้างในมีพระพุทธรูปและภาพถ่ายของพระอาจารย์จวน ผู้ก่อตั้งวัดภูทอกแห่งนี้ ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดปฎิบัติธรรมของผู้แสวงบุญ
จุดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของภูทอกคือ พุทธวิหาร มีข้อมูลบอกว่าเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ หลวงปู่จวนบอกว่า “พุทธวิหารนี้ เป็นที่ที่ปัจเจกพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเสด็จมาดับขันธ์นิพพาน” เป็นคำพูดของหลวงปู่ขาวที่เคยบอกไว้ พุทธวิหารแห่งนี้มีลักษณะแปลกตา มีแท่นหินวางไว้ข้างบนคล้ายกับพระธาตุอินทร์แขวนที่เมียนมาร์


ประวัติ ภูทอก


ก่อตั้งขึ้นในปีพุทธศักราช 2483 โดยพระอาจารย์จวน ที่ปฏิบัติธรรมอยู่ที่ภูวัว อำเภอเซกา แล้วเกิดนิมิตรฝันเห็นปราสาทที่สวยงามตั้งอยู่ 2 หลัง ตั้งอยู่ทางภูทอกน้อย พระอาจารย์จึงเดินทางมาพิสูจน์แล้ว พบกับทัศนียภาศที่สวยงาม ร่มรื่น เงียบสงบ เหมาะกับการปฏิบัติธรรม พระอาจารย์จวน และพระครูศริธรรมวัฒน์ จึงปักกรดบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ในถ้ำ บนภูทอก ชาวบ้านคำแคนเห็นพระสงฆ์มาปฎิบัติธรรมในถ้ำ ก็เกิดความศัทธา นำภัตตาหารมาถวาย จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2512 ชาวบ้านได้ร่วมมือร่วมใจ ช่วยกันสร้างบันไดจนถึงชั้นที่ 6 และปลูกสร้างเสนาสนะให้เป็นที่อยู่อาศัยของภิกษุสงฆ์ไว้ที่ชั้น 5 โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 2 เดือน 10 วัน ในปี พ.ศ. 2513-2514 พระอาจารย์จวนและชาวบ้านช่วยกันสร้างระบบน้ำประปาขึ้นมาภายในวัด ต่อมาทางกองทัพอากาศดอนเมืองได้ถวายเครื่องไฟฟ้าแรงสูง สำหรับใช้ภายในวัด


ชาวบ้านเล่าว่า ช่วงแรกๆยังไม่มีบันได เวลาชาวบ้านไปถวายถวายภัตตาหารก็จะยึดเถาวัลย์ไต่ขึ้นไป จากคำบอกเล่าของคุณลุงท่านหนึ่งซึ่งเป็น 1 ในช่างที่ร่วมสร้างสะพาน คุณลุงบอกว่า ได้เริ่มสร้างสะพานไม้รอบเขาจากชั้น 5 โดยการใช้สิ่วสะกัดหินอย่างยากลำบาก ฝังเสาขนาดใหญ่ลงไปเพื่อเป็นตัวยึด นั่งร้านหรือไม้ไต่ ทำจากไม้เนื้อแข็งสองท่อนผูกปลายทั้งสองข้างโยงกับเสาไม้ จากนั้นก็ใช้สิ่วเจาะหินเป็นร่องๆ เพื่อให้สอดไม้เข้าไปได้ สะพานแต่ช่วงจะทำเป็นคานยาวประมาณ 1 เมตร ตรงกลางมีคานไม้รองรับอีกชั้นหนึ่ง พอสร้างเสร็จแล้วก็ขยับนั่งร้านสร้างต่อไปเรื่อยๆ จนล้อมรอบทั้งเขา ต้องใช้ความเพียรพยายามอยู่นานถึง 3 เดือน จึงสร้างสะพานไม้ชั้น 5 เสร็จ ในปีนั้นชาวบ้านจึงได้เดินเวียนเทียนออกพรรษา รอบภูทอกบนสะพานไม้ที่ร่วมใจกันสร้างขึ้นมา




ท่องเที่ยว ภูทอก วัดเจติยาคีรีวิหาร อำเภอบึงกาฬ หนองคาย Unseen Thailand คลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/ท่องเที่ยว/

5

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบมากในสังคมไทย ซึ่งจากสถิติของสมาคมโรคภูมิแพ้และอิมมูโนวิทยาแห่งประเทศไทย พบโรคภูมิแพ้ในเด็กไทยสูงขึ้นร้อยละ 38 พบในผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 20 ทำให้ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มากขึ้น 3 – 4 เท่า เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่ผ่านมา


สาเหตุของการเกิดภูมิแพ้
กรรมพันธุ์ ซึ่งหากพ่อเเม่มีประวัติของโรค ลูกจะมีโอกาสเป็นถึงร้อยละ 75


การเปลี่ยนเเปลงของสิ่งเเวดล้อม


การไม่ออกกำลังกาย ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเเอ


การรับประทานอาหารจานด่วน หรือฟาสต์ฟู้ด ทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน


มลภาวะจากอุตสาหกรรม การจราจร และควันบุหรี่


การเลี้ยงสัตว์


การปูพรม


การติดเครื่องปรับอากาศ ซึ่งทำให้อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้เชื้อไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดี
ทั้งนี้โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายมีความผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ ส่งผลให้มีอาการผิดปกติในสารที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ อาทิ ไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ ซึ่งในร่างกายคนปกติ จะเเพ้สารก่อภูมิแพ้ ได้น้อยมาก หรืออาจจะไม่มีอาการ แต่สำหรับในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้อาการจะเกิดขึ้นแตกต่างกันออกไป ความรุนแรงไม่เท่ากัน เเม้ว่าจะเป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดเดียวกันก็ตาม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้ ที่ได้รับ เเละการตอบสนองของอวัยวะนั้นๆ โดยโรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่ไม่หายขาด เเต่เป็นโรคที่มีการเเปรปรวนในตัวเองสูง หากไม่มีการดูเเลสุขภาพ โรคภูมิแพ้ก็อาจจะกลับมาเป็นได้ใหม่ สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นภูมิแพ้ การออกกำลังกายให้ร่างกายเเข็งเเรงอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง


เลเซอร์ รักษาอาการภูมิแพ้
อย่างไรก็ตาม สำหรับในบางคนที่ต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่อง จะมีเทคโนโลยีทางการเเพทย์ที่สามารถรักษาอาการได้ คือ การรักษาโดยการใช้เลเซอร์ ซึ่งจะทำการยิงเลเซอร์ไปที่ตัวเซ็นเซอร์ที่รับและสัมผัสได้ไวในโรคภูมิแพ้ จะอยู่ที่ปลายจมูกบริเวณด้านหน้า เรียกว่า Inferior Turbinate เพื่อไปทำลายตัวรับสัญญาณภูมิแพ้ที่อยู่บริเวณดังกล่าวให้ทำงานน้อยลง โดยจะไม่เกิดปฏิกิริยากระตุ้นสารก่อภูมิแพ้อีก และยังช่วยลดขนาด จำนวนของเส้นเลือดที่อยู่ใต้เยื่อบุโพรงจมูก ทำให้ผู้ป่วยหายใจได้โล่งขึ้น มีน้ำมูกน้อยลง โดยพลังงานเลเซอร์ จะทำให้เนื้อเยื่อเเข็งตัว จากนั้นจะมีการปรับสภาพของเส้นเลือดเเละเยื้อบุ และประมาณ 1-2 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะมีสะเก็ดแผล แล้วเพียงกลับมาเอาสะเก็ดออก ก็จะมีความรู้สึกโล่งจมูก อาการภูมิแพ้ลดลง ปริมาณการใช้ยาก็ลดลง




เทคโนโลยี “เลเซอร์” รักษาอาการ “ภูมิแพ้” คลิ๊กที่นี่ http://www.สุขภาพดี.net/เทคโนโลยี/

6

คราบน้ำมันนั้นอาจสร้างคาวามรำคาญให้กับคุณได้เนื่องจากกำจัดออกยากเหลือเกิน วันนี้เรามีเทคนิคการล้างคราบน้ำมันเครื่องที่ไม่ยุ่งยากอีกต่อไป


เพื่อให้น้ำยาทำปฎิกิริยากับคราบสกปรก แต่หากมีคราบไม่มากนัก ขอแนะนำให้ทำความสะอาดโดยใช้วิธีธรรมชาติ


ผสมเบคกิ้งโซดาสามช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่นประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
ราดส่วนผสมลงไปที่คราบสกปรก และถูออกเบาๆ
หลังจากคราบสกปรกหายหมดแล้ว ให้ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ข้อควรระวัง อย่าลืมอ่านคำแนะนำก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง และใส่อุปกรณ์ป้องกันให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันผิวของคุณ และเปิดประตูหน้าต่างให้พื้นที่นั้นให้ถ่ายเทอากาศได้สะดวก


วิธีกำจัดคราบไขมัน
ถ้าหากคราบไขมันบนผนังหนาและยากที่จะกำจัด แนะนำให้ใช้ครีมขจัดคราบ แทนที่จะใช้น้ำยาขจัดคราบ เพราะครีมจะไม่ไหลเลอะเทอะและขจัดคราบได้ดีกว่าชนิดน้ำ อีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถใช้ได้ก็คือ


นำน้ำส้มสายชูเจือจางเทลงไปบริเวณคราบ (น้ำส้มสายชูหนึ่งส่วนต่อน้ำสี่ส่วน)
ทิ้งไว้ประมาณ 5 – 10 นาทีก่อนที่จะล้างออกด้วยน้ำสะอาด
การใช้น้ำยาขจัดคราบบนพื้นผิวไม้
ให้ลองใช้เหล้าขาวในการกำจัดคราบบนพื้นผิวไม้ แต่ให้ใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะเหล้าขาวเป็นวัตถุไวไฟ เก็บเหล้าขาวให้ห่างจากสิ่งที่จะทำให้เกิดประกายไฟ และต้องมั่นใจได้ว่า ห้องมีการถ่ายเทอากาศได้ดีก่อนนำออกมาใช้ทุกครั้ง




การทำความสะอาดคราบมันที่กำแพงห้องครัวและตามตู้ต่างๆ คลิ๊กที่นี่ https://www.bcithailand.net/น้ำยาล้างคราบน้ำมัน/

7

อาหารคลีน สามารถปรับสมดุลให้กับร่างกาย ขับสารพิษ และยังเป็นอาหารยอดฮิตในหมู่คนที่ลดน้ำหนักอีกด้วย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการกินอาหารคลีนนั้น ยังมีปัจจัยบางประการที่คนเริ่มกินควรรู้


คนรักสุขภาพหลายคนหันมาสนใจในเรื่องการกิน “คลีน” กันมากขึ้น เพราะอาหารคลีนเน้นสารอาหารจากผักผลไม้เป็นส่วนใหญ่ มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือจะเรียกว่าเป็นอาหารลดน้ำหนักเลยก็ได้ค่ะ แต่คุณรู้ไหมคะว่า ข้อสำคัญของคนที่เริ่มกินคลีนอย่างจริงจังนั้น ยังมีปัจจัยหลักหลายอย่างที่ควรรู้ไว้สักนิด เพื่อให้เกิดผลดีต่อร่างกายของเราอย่างสมบรูณ์ เรามาดูกันค่ะว่าสิ่งสำคัญที่ควรรู้มีอะไรกันบ้าง


1. น้ำตาลเทียม


หลายท่านที่เพิ่งเริ่มทานคลีนอาจคิดว่าการหลีกเลี่ยงรสหวาน หรือไม่ใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบของทุกเมนู แต่เปลี่ยนไปใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลปกติ ซึ่งจริงๆ แล้วเจ้าตัวน้ำตาลเทียมนี้ก็ไม่ได้นับว่าเป็นส่วนที่ทำให้คุณห่างจากความหวานได้เลยนะคะ หากทานเข้าไปทุกวันก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน เราจึงขอแนะนำให้ลดปริมาณน้ำตาลที่เคยใช้ปรุงอาหารลงจากเดิม หรือไม่ก็ใช้ความหวานจากผลไม้มาทดแทนดีกว่าการใช้น้ำตาลเทียมค่ะ


2. เลี่ยงการกินเมนูเดิมๆ


สาเหตุที่เราบอกว่าควรเลี่ยงการทานเมนูเดิมๆ นั่นเพราะว่า บางคนที่ทานแต่อกไก่ หรือสลัดผักเพียงอย่างเดียวเป็นเวลานานๆ โดยที่ไม่เปลี่ยนเมนู หรือลองพลิกแพลงไปทานเมนูอื่นบ้าง จะทำให้ร่างกายของคุณนั้นรับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ และจะไม่เกิดความหลากหลายของการทานอาหารให้ครบห้าหมู่นั่นเองค่ะ ฉะนั้น การพลิกแพลงเมนู หรือเปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลาย นอกจากจะทำให้เจริญอาหารแล้ว คุณยังจะได้พบกับรสสัมผัสใหม่ที่ไม่น่าเบื่ออีกด้วยล่ะค่ะ


3. อย่าทานแต่ผักผลไม้


สาวๆ บางคนอาจคิดว่าการทานคลีนคือการกินแต่ผักกับผลไม้เพียงอย่างเดียว ซึ่งหากคุณคิดแบบนั้นมันก็ไม่ผิดเท่าไหร่ค่ะ แต่ร่างกายของคุณจะได้รับสารอาหารที่นำไปเลี้ยงร่างกายไม่เพียงพอน่ะสิ เพราะร่างกายคนเรายังต้องการสารอาหารที่เป็นโปรตีนเพื่อเป็นพลังงาน ใช้ในการเผาผลาญของร่างกายในแต่ละวัน ซึ่งหากทานแต่ผักผลไม้ที่ให้พลังงานไม่เพียงพอ ก็อาจเป็นลมหรือขาดสารอาหารได้ง่ายๆ ฉะนั้นเราจึงอยากให้ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ในระหว่างมื้อ เช่น ทานอาหารที่มีโปรตีน อย่างน้อยก็จะช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอให้แข็งแรงขึ้น และทำให้สุขภาพของเราดีอีกด้วย


4. แบ่งมื้ออาหารย่อยในแต่ละวัน


การเริ่มหัดทานอาหารลดน้ำหนักในช่วงแรก หากปุบปับจะให้เปลี่ยนมาทานคลีนเลยก็คงจะทรมานร่างกายอยู่ไม่น้อย เนื่องจากสภาพร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่งผลให้รู้สึกหิวถึงหิวมาก ระบบเผาผลาญและการย่อยอาหารเกิดความผิดเพี้ยน ดังนั้น จึงควรทำการแบ่งเป็นมื้อเล็กๆ ย่อยออกมาเป็น 6 มื้อ การแบ่งทานแบบนี้จะทำให้ไม่รู้สึกหิวในระหว่างวัน และร่างกายก็จะได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน แถมยังปรับสมดุลระบบเผาผลาญในร่างกายของเราให้ดีขึ้นอีกด้วย




5 ข้อหลักที่คนกิน อาหารคลีน อาจไม่รู้ คลิ๊กที่นี่ http://thetastefood.com/อาหารคลีน/

8

ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่พบว่ากระบวนการผลิตได้สร้าง ปัญหาเรื่องเสียงดัง ให้กับผู้ปฏิบัติงานหรือชุมชนที่อยู่รอบบริเวณโรงงานก็ต่อเมื่อถูกร้องเรียนจากพนักงานหรือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ


เพราะในโรงงานที่มีกระบวนการผลิต จะมีอุปกรณ์หรือเครื่องจักรที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียงดังกว่า 85 dBA อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่ง องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้เสียงที่ดังเกินกว่า 85 dBA (ทุกย่านความถี่) เป็นอันตรายต่อมนุษย์ หากผู้ออกแบบหรือเจ้าของโรงงานได้คำนึงถึงเรื่องเสียงไว้ตั้งแต่ตอนก่อสร้างโรงงาน ก็มักจะมีการระวังป้องกัน พร้อมกับ ติดตั้งระบบลดเสียงดัง หรือ ระบบดูดซับเสียง ฉนวนกันเสียง ไว้แล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วโรงงานส่วนใหญ่ ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ในตอนต้นด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น เมื่อสร้างโรงงานใหม่ยังอยู่ห่างไกลจากชุมชน เรื่องเสียงดังจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล และการตัดระบบลดเสียงออกไป ก็ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างได้อีก เมื่อเวลาผ่านไปและโรงงานถูกล้อมรอบด้วยชุมชน ปัญหาเรื่องเสียงดังจากการผลิต ก็ค่อยๆเพิ่มระดับความรุนแรงและชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะโรงงานที่มีระบบ ISO18001


การติดตั้งระบบลดเสียงในโรงงาน สามารถทำได้หลายจุดขึ้นอยู่กับปัญหาหลักและสภาพแวดล้อมหน้างานจริง รวมถึงงบประมาณที่ลูกค้าตั้งไว้ โดย นิวเทค อินซูเลชั่น มีบริการแก้ปัญหาเสียงดังในโรงงานดังต่อไปนี้
-ห้องเก็บเสียงสำหรับห้องควบคุมระบบเพื่อลดเสียงดังจากการผลิต
-ผนังดูดซับเสียงเพื่อลดระดับความดังในพื้นที่การผลิต
-ผนังกั้นเสียงเฉพาะพื้นที่หรือเฉพาะเครื่องจักรเพื่อชีวอนามัยของพนักงาน
-กล่องครอบลดเสียงสำหรับเครื่องจักรเฉพาะทางที่ไม่สามารถติดฉนวนกันเสียงได้
-ม่านลดเสียงสำหรับพื้นที่เสียงดังไม่มาก และงบประมาณจำกัด
-แผ่นกันเสียงสะท้อนและเสียงก้องในพื้นที่ทดลองสินค้าบางประเภท
-ตู้เก็บเสียงสำหรับเครื่องปั่นไฟ หรือ fire pump




ติดตั้งระบบ ฉนวนกันเสียง ลดเสียงดังโรงงาน คลิ๊กที่นี่ https://www.ฉนวนกันเสียง.com/ฉนวนกันเสียงดัง/





9

ไบโอกรีส เป็น ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ชนิดผง นำนวัตกรรมการผสมผสานระหว่าง เทคโนโลยีชีวภาพ (จุลินทรีย์คัดสายพันธุ์พิเศษ) ร่วมกับ นาโนเทคโนโลยี (สารเร่งปฏิกิริยา- เอนไซม์) โดยเมื่อนำไบโอกรีสผงไปผสมน้ำแล้ว ประมาณ 15 นาที ก็สามารถนำไบโอกรีสน้ำไปใช้งานได้ทันที


การใช้งานไบโอกรีส
เหมาะสมสำหรับการใช้งานตั้งแต่เริ่มต้นจากชุมชน สู่องค์กร และอุตสาหกรรม รวมทั้งหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้แก่ ร้านอาหาร ตลาดสด อาคารสูง โรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้า โรงงานเชือดสัตว์ โรงงานแปรรูปอาหารและเครื่องดื่ม โรงงานแปรรูปยางพารา ศูนย์ขนถ่ายขยะ บ่อฝังกลบขยะ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต) เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ)


คุณสมบัติและข้อเด่นของ ไบโอกรีส
-ใช้ในการ กำจัดกลิ่นเหม็น ทุกชนิด เช่น กลิ่นเหม็นจากกองขยะ กลิ่นน้ำเน่าเสีย กลิ่นหืนไขมัน กลิ่นคาวเลือด กลิ่นแก๊สตีย้อนจากท่อน้ำทิ้ง กลิ่นเหม็นจากระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนและอุตสาหกรรม กลิ่นเน่าเสียของซากพืชซากสัตว์ กลิ่นเหม็นรบกวนจากกากยางพารา เป็นต้น โดยการใช้ไบโอกรีสกำจัดกลิ่นเหม็น สามารถแก้ไขได้รวดเร็ว ค่อนข้างกำจัดกลิ่นเหม็นได้ทันที ตั้งแต่ 10 นาทีขึ้นไป หลังจากการใช้งาน


-ใช้ในการ กำจัดไขมันในน้ำเสีย และ ย่อยสลายไขมัน ตามเส้นท่อระบายน้ำ รวมทั้งไขมันสะสมในแหล่งน้ำ หรือในระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อแก้ไขปัญหาท่อระบายน้ำอุดตันจากการสะสมของไขมัน และป้องกันการอุดตันของไขมันในเส้นท่อระบายน้ำ โดยการใช้ไบโอกรีส กำจัดไขมัน สามารถเห็นผลได้รวดเร็วชัดเจน ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากการใช้งาน สามารถกำจัดไขมันในน้ำเสียได้ทั้งสามประเภท ไขมันลอยตัว ไขมันแขวนลอย และไขมันละลายน้ำ


– ใช้ในการ บำบัดน้ำเสีย ปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดี เพื่อให้ค่าน้ำทิ้งปรับเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานตามการออกแบบ โดยการใช้ไบโอกรีสในการบำบัดน้ำเสีย สามารถใช้งานได้ทั้งในระบบบำบัดน้ำเสียแบบมีอากาศและไม่มีอากาศ ช่วยให้ระบบบำบัดน้ำเสียทำงานได้มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ




จุลินทรีย์กำจัดกลิ่นเหม็น ไขมัน คลิ๊กที่นี่ https://www.bcithailand.net/บำบัดน้ำเสีย/

10

เนื้อหมูเป็นวัตถุดิบชั้นดีอย่างหนึ่งที่สำคัญในการประกอบอาหาร ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด และยำ ก็ล้วนแต่ต้องใช้เนื้อหมูทั้งนั้น


แต่หลายครั้งที่บางท่านนำเนื้อหมูมาประกอบอาหารแล้วเนื้อหมูมีความเหนียวและแข็ง จนทำให้อาหารไม่อร่อยเท่าที่ควร สำหรับอาหารที่อร่อยและมีรสชาติที่ดีนั้น ควรมีเนื้อหมูที่นุ่ม เคี้ยวง่าย และไม่แข็ง เคล็ดลับที่ทำให้เนื้อหมูนุ่มนั้นก็คือการหมักนั่นเองค่ะ ซึ่งก็มีอยู่หลายวิธีที่คุณสามารถทำได้ไม่ยาก และวันนี้เราก็มีสูตรหมักหมูง่ายๆที่คุณก็ทำได้หลายเมนู แถมยังเป็นพื้นฐานที่ทำให้หมูอร่อยและประหยัดอีกด้วยค่ะ


เอาใจคนรักการทำอาหารด้วยสูตรหมักแบบหมูๆๆๆๆๆๆๆ
หมักเนื้อหมูด้วยไข่ไก่และนมสดชนิดจืด
โดยจะใช้เวลาในการหมัก ประมาณ 2 ชม. วิธีนี้จะให้ผลคล้ายๆกัน คือ เนื้อหมูจะนุ่มและดูชุ่มชื้น เหมาะกับการหมักเนื้อหมูส่วนที่ไม่มีไขมัน หรือมีมันน้อย เช่น เนื้อสันใน เวลาหมักจะใส่ซีอิ้วขาวหรือซอสปรุงรสลงไปด้วยก็ได้ เป็นการเพิ่มรสชาติให้หมูอร่อยยิ่งขึ้น จากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงจะทำให้เนื้อหมู มีความนุ่ม และชุ่มชื้น ยิ่งใส่เครื่องเทศลงไป จะยิ่งทำให้รสชาติของเครื่องเทศ เข้าไปอยู่ในเนื้อหมูได้ดี เรียกได้ว่า วิธีนี้ค่อนข้างจะได้รับความนิยมจากผู้ที่ทำหมูปิ้งขายกันมากๆ เพราะนอกจากจะนุ่มแล้ว ยังมีกลิ่นหอมชวนให้ชิมอีกด้วยค่ะ


หมักเนื้อหมูด้วยสับปะรด โซดา ไวน์ และ เบียร์
วัตถุที่กล่าวมานี้มีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อนำไปหมักเนื้อหมูจะทำให้โปรตีนในเนื้อเปื่อยยุ่ยและนุ่ม แต่ข้อห้ามคือ อย่าหมักนานจนเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อยุ่ยเละไม่น่าทาน ควรเลือกการหมักด้วยสูตรใดสูตรหนึ่งเพียงอย่างเดียวจะให้ได้ผลที่คล้ายกัน คือ เนื้อจะอ่อนนุ่มมาก แต่ไม่ชุ่มชื้น เหมาะสำหรับหมักกับเนื้อส่วนที่มีเส้นใยมากๆ และมีมันปนอยู่บ้าง เช่น เนื้อสะโพก จากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ15- 30 นาที รับรองว่าหมูนุ่มชัวร์


หมักเนื้อหมูด้วยน้ำมันงา น้ำมันหอย เกลือ พริกไทยป่น ซีอิ้วขาว
วิธีนี้ก็ทำให้นุ่มน่ากินมากขึ้น ซอสปรุงรสต่างๆ เรียกได้ว่าแม่บ้านหลายๆบ้านก็ยังใช้ซอสปรุงรสในการหมักหมูอยู่ ซอสปรุงรสเหล่านี้จะช่วยให้มีกลิ่นและรสชาติเพิ่มขึ้น และยังทำให้เนื้อหมูของเรานุ่มหวานอร่อยอีกด้วย เมื่อทำการหมักแล้วจากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ 30 นาทีหรือ 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นยิ่งดี ก่อนที่จะเอาไปประกอบอาหารสัก 15 นาที




อาหารลดน้ำหนัก สูตรหมักหมู ให้อร่อย และไม่อ้วน คลิ๊กที่นี่ อาหารลดน้ำหนัก สูตรหมักหมู ให้อร่อย และไม่อ้วน

11
พูดคุยทั่วไป / การบริการอาหารและเครื่องดื่ม
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 09, 2019, 11:04:41 AM »

อาหารจัดว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย จึงมีการกำหนดอาหารขึ้นเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิต ดังนั้นคนทุกคนจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารเพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไป หากมีลูกค้าซึ่งอาจเป็นคนไทย ชาวต่างประเทศ หรือนักท่องเที่ยวเข้ามารับประทานอาหารในร้านเป็นจำนวนมาก ย่อมทำให้มีการรับประทานอาหารมากขึ้น ซึ่งหมายถึงงานมากขึ้นและรายได้สำหรับพนักงานจะมากขึ้น


อาหารคืออะไร?
อาหาร คือ สิ่งต่างๆ ที่เรารับประทานเข้าไป โดยการใส่ปาก เคี้ยว กลืนและย่อยเพื่อให้ดูดซึมไปบำรุงส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมถึงอาหารใจเมื่อได้รับประทานเข้าไปจะรู้สึกพอใจ ประทับใจ


อาหารที่ดี คืออาหารที่สะอาด ไม่เป็นพิษ มีรสชาติอร่อยซึ่งมาพร้อมกับการบริการที่ดี ประทับใจ สามารถเชิญชวนให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการได้ในครั้งต่อๆ ไป


อาหารไม่ดี คือ อาหารที่ไม่สะอาดเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วทำให้ร่างกายได้รับอันตราย อาจเจ็บป่วยหรือเป็นโรคได้ รวมถึงการบริการที่ไม่ดี ขาดการเอาใจใส่


สารอาหารถูกจำแนกให้เป็น 6 หมู่หลักตามองค์ประกอบทางเคมี คือ
หมู่ที่ 1 โปรตีน พบใน เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต พบใน ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน
หมู่ที่ 3 เกลือแร่หรือแร่ธาตุ มีอยู่ใน พืชผัก
หมู่ที่ 4 วิตามิน มีอยู่ใน ผลไม้
หมู่ที่ 5 ไขมัน ไขมันจากพืชและสัตว์
หมู่ที่ 6 น้ำ
ผู้ประกอบอาหารควรคำนึงถึงการปรุงอาหารที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับสารอาหารครบถ้วนตามสัดส่วนที่ควรได้รับในแต่ละวัย


นอกจากนี้ ผู้ประกอบอาหารควรคำนึงถึงใยอาหารซึงเป็นคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยช่วยการขับถ่าย จับไขมันจากอาหาร ลดการดูดซึมพวกน้ำตาล ป้องกันมะเร็งในลำใส้ ป้องกันโรคริดสีดวงทวาร และป้องกันโรคลำไส้โป่งพอง คนเราควรได้รับใยอาหารวันละ25กรัม ใยอาหารพบมากใน ผักต่างๆและผลไม้บางชนิด




การบริการอาหารและเครื่องดื่ม คลิ๊กที่นี่ http://snss.co.th/dt_post/catering-service/

12

คำว่าบ้านนั้นมีความหมายมากกว่าที่อยู่อาศัย หรือที่นอนพักผ่อนยามเหนื่อยล้า แต่หมายถึงความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัวด้วยเช่นเดียวกัน เพราะบ้านนั้นเป็นศูนย์รวมของครอบครัว ทั้งเด็ก หนุ่มสาว และคนชรา ดังนั้นการที่บ้านจะเป็นบ้านได้ จึงต้องมีลักษณะที่น่าอยู่อาศัย สะอาดสะอ้าน รวมไปถึงพฤติกรรมของคนในครอบครัวประกอบร่วมกัน เมื่อองค์ประกอบทั้งหมดนี้มารวมกันอย่างสมบูรณ์ จึงจะสามารถเรียกว่า “บ้าน” ได้อย่างเต็มปาก และสำหรับวิธีการทำให้บ้านมีลักษณะที่น่าอยู่นั้น ทำได้ดังต่อไปนี้ครับ


1. ควรจัดหรือตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย ไม่รกรุงรัง หรือวางข้าวของทิ้งระเกะระกะ รวมไปถึงต้องจัดบ้านให้สามารถมีแดดส่องถึงได้ เพราะมีการวิจัยบางตัวเคยบอกว่า การที่บ้านมีลักษณะมืดๆทึบๆ นั้นไม่ชวนให้น่าอยู่เท่าไหร่นัก นอกจากนั้นห้องต่างๆ ภายในบ้านควรจัดให้มีความโปร่งสบาย อากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้ไม่อับจนน่าอึดอัดนั่นเองครับ


2. หมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้สกปรกหรือรกรุงรัง เพราะความสะอาดนั้นมีผลต่อการอยู่อาศัยอย่างมาก ถึงแม้ท่านผู้อ่านก็คงไม่ชอบที่จะอยู่ในบ้านรกๆ ไม่เคยกวาดหรือถูพื้นสักเท่าไหร่หรอกใช่ไหมครับ ตามหลักแล้วเราจึงควรทำความสะอาดด้วยการกวาดบ้านวันละครั้งเป็นอย่างน้อย และหมั่นถูพื้น ปัดหยากไย่อยู่เป็นประจำทุกสัปดาห์ จะช่วยให้บ้านดูน่าอยู่มากขึ้นครับ


3. จัดห้องต่างๆ รวมถึงของใช้เป็นหมวดหมู่อย่างเหมาะสม เช่น ห้องครัวก็จัดตู้หรือชั้นวางต่างๆ สำหรับวางจนและของใช้ในครัว ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นต้องแยกเป็นสัดส่วน นอกจากนั้นหากบ้านของคุณมีเด็ก จะต้องแยกเป็นโซนของเด็กต่างหาก เพราะเด็กนั้นมักจะมีของเล่นต่างๆ มากมาย ดังนั้นการแยกส่วนจะทำให้บ้านดูน่าอยู่และไม่รกหูรกตานั่นเองครับ




บ้านที่น่าอยู่มีลักษณะอย่างไร กับ 4 วิธีง่ายๆที่จะเปลี่ยนบ้านของคุณให้น่าอยู่มาก คลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/บ้านน่าอยู่/

13
พูดคุยทั่วไป / อาหารคลีน (CLEAN FOOD) ใครๆ ก็อยากลอง
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2019, 05:13:40 PM »

ขึ้นชื่อว่า อาหารคลีน (Clean Food) หลายคนคงได้ยินกันบ่อยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ อาหารคลีนไม่ใช่กินแต่สลัดผัก อาหารที่ผัดโดยใช้น้ำมันมะกอก ก็เรียกเป็นอาหารคลีนทั้งนั้น จริงๆแล้ว อาหารคลีนคือ อาหารที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ นำมาผ่านการปรุงแต่งโดยผ่านกระบวนการที่น้อยที่สุด แต่ถ้าให้ดูลึกๆจริงๆแล้ว วัตถุดิบที่คัดสรรมาจำเป็นต้องมีคุณภาพ หลายคนต้องการลดน้ำหนัก เห็นสลัดที่จัดเป็นชุดๆ น่าทาน


เมื่อทานแล้วรู้สึกว่าวันนี้ได้ทานอาหารคลีนเข้าไปแล้ว สิ่งที่ได้แน่นอนคือคาร์โบไฮเดรตและเส้นใยจากผัก แต่สิ่งที่แฝงและอาจทำให้อาหารนั้นไม่คลีนจริงคือองค์ประกอบของสลัดนั้น เช่น ใส่ไส้กรอก เบคอน หมูยอ หรือที่มาของน้ำสลัดเอง ดังนั้นหาจะให้แน่ใจว่าได้รับอาหารคลีนจริง อาจต้องอาศัยการทำอาหารทานเองและเพ็งพินิจว่าแต่ละส่วนมาจากไหน ฟังดูอาจทำให้ชีวิตยุ่งยากขึ้น เพื่อให้การดำรงชีพเป็นไปอย่างปกติและรับประทานอาหารที่คลีนได้อย่างสบาย อาจต้องกลับมาดูวัตถุดิบให้เป็นว่าอะไรคลีนอะไรไม่คลีน อาหารที่ไม่คลีน คืออาหารที่เอาวัตถุดิบธรรมชาติไปผ่านการแปรรูปปรุงแต่งต่างๆนานเพื่อให้น่ากินและอร่อย เช่น


เนื้อสัตว์แปรรูป มีได้ต้องแต่ ลูกชิ้น ไส้กรอก โบโลน่า แฮม เบคอน กุนเชียง โดยเฉพาะพวกไก่บด เนื้อบดที่อัดแท่งขาย บางครั้งผู้ผลิตต้องการให้ผลิตภัณฑ์อร่อยจึงต้องมีการปรุงแต่งรสชาติและไขมันลงไปเพื่อให้เกิดความนุ่มเวลาทาน หากบางคนเคยทานกุนเชียงจะเห็นได้ชัดเจนว่า กุนเชียงไหนสีขาวๆ มีก้อนเล็กๆสีขาวๆ (ไขมัน) ปนอยู่เยอะ กุนเชียงนั้นจะนิ่มเวลานำไปทอดจะมีน้ำมันเยิ้มให้เห็น แต่ถ้าเป็นกุนเชียงที่มีมันน้อย เนื้อกุนเชียงก็จะแข็งกระด้าง


คาร์โบไฮเดรตขัดสี ด้วยความที่เรารับประทานข้าวขัดขาวมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้เกิดความเคยชิน สิ่งที่เรารับประทานเข้าไปเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานเร็ว หากใช้ไม่หมดก็จะแปลงเป็นไขมันสะสมกันต่อไป แถมส่วนที่มีประโยชน์เช่นไฟเบอร์และวิตามินก็ถูกขัดเกลี้ยงออกไป ดังนั้นข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสี เช่นข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง หรือข้าวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเช่น ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด เป็นสิ่งที่ควรหามาบริโภค




อาหารคลีน (CLEAN FOOD) ใครๆ ก็อยากลอง คลิ๊กที่นี่ http://www.สุขภาพดี.net/อาหารคลีน/

14
พูดคุยทั่วไป / จัดฟันให้เรียงสวย ทำอย่างไร
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 08, 2019, 01:23:25 PM »

การจัดฟัน คือกระบวนการติดเครื่องมือจัดฟันซึ่งจะทำให้เกิดแรงกดลงไปที่ฟัน เพื่อให้ฟันเกิดการเคลื่อนย้ายไปในทิศทางที่ต้องการและค่อย ๆ ขยับเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการสบกันของฟันบนกับฟันล่าง นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานและสุขภาพของช่องปากและฟันแล้ว การจัดฟันยังช่วยเพิ่มความสวยงามของฟัน ทำให้พูดหรือยิ้มได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น


เหตุใดจึงควรจัดฟัน


การมีฟันเก ฟันห่าง ฟันที่เรียงซ้อนกัน หรือฟันที่สบกันไม่พอดี รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับขากรรไกรที่ส่งผลต่อการเคี้ยวอาหาร ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ประสิทธิภาพในการเคี้ยวอาหารลดลง และยังเป็นอุปสรรคต่อการทำความสะอาด ส่งผลต่อสุขภาพทางช่องปากและฟันตามมา ซึ่งสาเหตุของฟันที่สบกันไม่พอดีนี้อาจมาจากการชอบดูดนิ้วตอนเด็ก การถอนฟันแท้ในช่วงก่อนโตเป็นผู้ใหญ่ หรือเกิดจากพันธุกรรม


ดังนั้นการจัดฟันจึงมีผลดีต่อสุขภาพช่องปากและฟัน เพราะเมื่อฟันเรียงตัวกันอย่างมีระเบียบ การทำความสะอาดจะง่ายขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดฟันผุและโรคเหงือก นอกจากนี้ ฟันที่สบกันสนิทจะทำให้เคี้ยวอาหารได้อย่างละเอียด ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับการพูดที่เกิดจากการสบของฟัน


วัยที่เหมาะสมสำหรับการจัดฟัน


ไม่ว่าอายุเท่าใดก็สามารถจัดฟันได้ แต่ทันตแพทย์มักแนะนำให้เด็กอายุ 7 ปีเข้ารับการตรวจฟันเพื่อดูว่ามีปัญหาที่ควรแก้ไขด้วยการจัดฟันหรือไม่ การตรวจรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้แก้ไขง่ายขึ้น เนื่องจากกระดูกของเด็กยังมีการเติบโตและพัฒนาไม่เต็มที่ การจัดฟันในเด็กอาจต้องแบ่งการจัดฟันเป็น 2 ระยะด้วยกัน คือ


การจัดฟันระยะที่ 1 ทำในช่วงอายุ 7 ปี โดยเป็นการตรวจรักษาปัญหาการสบฟันหรือมีฟันซ้อนกันคับแน่น เช่น เด็กที่มีปัญหาขากรรไกรบนแคบ ทำให้ฟันแน่นซ้อนกันมากจึงสบไม่พอดีกับขากรรไกรล่าง สามารถรักษาด้วยการใช้เครื่องมือขยายขากรรไกรบนเพื่อช่วยให้ขากรรไกรสบกันได้ดีขึ้น แต่เครื่องมือนี้สามารถใช้ได้เฉพาะในช่วงอายุที่กระดูกยังปรับเปลี่ยนได้ง่าย ทั้งนี้ ในระยะที่ 1 ทันตแพทย์จะให้เด็กใส่เครื่องมือสำหรับจัดฟันทันทีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณี หลังจากนี้จึงพักการจัดฟันระยะที่ 1 ไว้เพื่อรอให้ฟันแท้ขึ้นมาแทนฟันน้ำนม จึงจะเริ่มการจัดฟันระยะที่ 2 ต่อไป


การจัดฟันอีกครั้งในระยะที่ 2 จะทำเมื่ออายุประมาณ 12-13 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่ฟันแท้ขึ้นครบสมบูรณ์และสามารถให้เด็กใส่เหล็กจัดฟันบนฟันแท้ทั้งหมดได้แล้ว แต่หากเลยช่วงเวลาของการจัดฟันทั้ง 2 ระยะไปแล้ว การรักษาด้วยการจัดฟันแบบระยะที่ 2 เพียงอย่างเดียวก็ถือว่าเพียงพอและได้ผลเช่นกัน ยกเว้นกรณีที่มีฟันขึ้นซ้อนกันมากก็อาจจำเป็นต้องถอนฟัน เพื่อให้ฟันมีพื้นที่ในการขยับเรียงตัว




จัดฟันให้เรียงสวย ทำอย่างไร คลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/จัดฟัน/

15

เป็นผักที่หลายๆคน และหลายประเทศทั่วโลกรู้จักกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นผักที่ขึ้นตามแหล่งธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นริมทาง , ป่าละเมาะ , ป่ารกร้างรวมทั้งในสวนผักผลไม เป็นต้นฯ ซึ่งผักโขมยังได้รับการนิยมนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพอีกทั้งคนที่ทานมั้งสวิรัติ ถือเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ โดยแท้จริง


สำหรับในประเทศไทยเองก็นิยมกินผักโขมมานานมากเช่นกัน ซึ่งผักโขมก็แบ่งออกเป็นหลายชนิดด้วยกัน เช่น ผักโขมบ้าน , ผักโขมสวน , ผักโขมฝรั่งและผักโขมจีน นั่นเอง ซึ่งชนิดที่คนส่วนมากนิยมกินและมีวางขายกันทั่วไปก็คือ ผักโขมจีนนั่นเอง ! ผักโขม ยังเป็นผักที่ให้คุณประโยชน์และสรรพคุณทางยามากมาย ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง , โรคเบาหวาน , โรคโลหิตจาง , ความดันโลหิตสูงและช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย เนื่องจากผักโขมมีทั้งโปรตีน , วิตามิน , กรดอะมิโนและสารอาหารและแร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย เช่น ธาตุเหล็ก , แคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง เป็นต้นฯ และผักโขมยังเป็นผักที่บำรุงน้ำนมสำหรับคุณแม่ลูกอ่อนได้ดี ถึงแม้ผักโขมจะเป็นผักใบเขียวแต่ก็มีเบต้าแคโรทีนสูง โดยมีสารลูทีนและสารเซอักแซนทินซึ่งเป็นสารแคโรทีนอนด์อยู่เป็นจำนวนมาก และสารทั้ง 2อย่างนี้ มีสรรพคุณช่วยชะลอความเสื่อมของดวงตา ลดความเสี่ยงจากโรคดวงตาเสื่อมได้ถึงร้อยละ 43 อีกทั้งยังมีผลในการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ และมีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอลเลสเตอรอลในเลือดได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมากจึงช่วยในเรื่องระบบการขับถ่ายและลดความเสี่ยงการเกิดเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ด้วย และเหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวเพราะการทานผักโขมจะช่วยให้ร่างกายสามารถผลิต คอลลาเจนได้มากขึ้นกว่าเดิม มีข้อพิสูจน์แล้วว่าการรับประทานอาหารจำพวกผักสีเขียว เช่น บรอกโคลี่และผักโขมนั้นจะสามารถช่วยในเรื่องความทรงจำของผู้หญิงที่สูงวัยและป้องกันไม่ให้เกิดโรคอ้วนทั้งในผู้ชายและผู้หญิงในช่วงวัยกลางคนได้




อาหารสุขภาพ : ประโยชน์และสารอาหารจากผักโขม คลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/topics/healthyfood/

หน้า: [1] 2