ข้อมูลส่วนตัว

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - panne rattana

หน้า: 1 [2]
16

การเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน นั้นก็เป็นขึ้นตอนที่สำคัญเหมือนกันน่ะครับ


1.ต้องดูแลรักษาฟันเราให้สะอาดเป็นอันดับแรกเลยน่ะครับ และตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำ ขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน หากมีฟันผุ ควรรีบอุดฟันเลย


2.ต้องศึกษาข้อมูลก่อนการจัดฟัน ข้อดี ข้อเสีย ต่างๆ น่ะครับ ให้ละเอียดเลยน่ะครับ และ คิดถึงวัตถุประสงค์ของเราเองด้วยว่า มันจำเป็นสำหรับเรามากแค่ไหน


3.ลองปรึกษา เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เคยจัดฟันมาก่อน หากเรามีข้อสงสัย ก็ถามเพื่อนในเว็บบอร์ดของเราได้ แต่ละคน วิธีการรักษาไม่เหมือนกันน่ะครับ ถ้าไปทำจริงๆ แล้วไม่เหมือน กับเพื่อนๆ ก็อย่าตกใจ อยากไปเถียงคุณหมอนน่ะครับ


4.ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ด้วยน่ะครับ เพราะว่า การจัดฟันนี่มันไม่ได้จัดกันเสร็จภายในเดือนสองเดือน บางคนอาจนานถึง 3 ปี เพราะงั้น อาจจะเกิดผลกระทบอย่างอื่นได้น่ะครับ เช่น บ้านเราอยู่ที่เชียงใหม่ แต่ดันสอบติด ราชมงคลธัญบุรีเวลามาเป็นเฟรชชี่ที่นี่ จะกลับไปที่โน้นทุกเดือนก็อาจ
จะลำบากน่ะครับ แต่ถ้าหาที่จัดฟันต่อจากที่เก่าได้ก็สบายไป


5.ค้นหาคลินิกจัดฟันที่สะดวกเดินทาง และเลือกคุณหมอ หรือแผนการรักษาที่เราโอเคที่สุด


6.เตรียมเงินไว้ ช่วงแรกจะเงินก้อนครับ ทั้งค่าเคลียร์ช่องปาก เช่น ขูดหินปูน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด x-ray พิมพ์ฟัน และค่าติดตั้งเครื่องมือที่ครั้งแรกหรือช่วงแรกจะสูงหน่อย หลังจากนั้นจะเป็นแบบผ่อนชำระเดือนละ 1-2000 บาท ไปจนกว่าจะเสร็จ


7.ทำใจเตรียมความเจ็บปวดและทรมาน ฟังดูอาจจะโหดไป แต่การจัดฟัน ต้องมีการถอนฟัน แยกฟัน ดึงฟัน ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าไม่ได้เจ็บมากอะไร หรือบางคนก็ปวดทรมาณจนฟันกระทบกันไม่ได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้ว ไม่มีอะไรที่เราทนไม่ได้หรอกครับ สู้ๆ




การเตรียมตัวก่อนการ ดัดฟัน คลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/ดัดฟัน/

17

การดูดซับเสียงหรือการควบคุมเสียงสะท้อน (Sound Absorption) การออกแบบห้องที่ต้องการลดเสียงสะท้อน เช่น ห้องประชุม, โรงละคร, โรงภาพยนตร์, ห้องบรรยาย, ห้องดูหนัง – ฟังเพลง, ห้องคาราโอเกะ




หากมีเสียงสะท้อน หรือเสียงก้องเกิดขี้น จะทำให้ประสิทธิภาพของเสียงที่หูของผู้ฟังได้ยินอาจลดประสิทธิภาพลงไป ดังนั้นต้องออกแบบให้มีวัสดุที่สามารถดูดซับเสียงได้ดี เพื่อป้องกันเสียงที่มากระทบฝ้าเพดาน พื้น ผนัง โดยสามารถดูได้จากค่า NRC ซึ่งเป็นค่าที่ระบุความสามารถการดูดซับเสียงของวัสดุต่าง
วัสดุทุกชนิดสามารถดูดซับเสียงได้ในระดับที่แตกต่างกันไป เมื่อคลื่นเสียงวิ่งกระทบวัสดุ จะมีบางส่วนของพลังงานเสียงถูกดูดซับและที่เหลือจะสะท้อนออกไป และเสียงที่สะท้อนออกไปนั้นจะมีพลังงานน้อยกว่าแหล่งกำเนิดเสียงเสมอ และพลังงานเสียงที่ถูกดูดซับเข้าไปจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นพลังงานรูปอื่น โดยทั่วไปจะเป็นความร้อน และจำนวนพลังงานที่ถูกดูดซับเข้าไปจะถูกแสดงในรูปของสัมประสิทธิ์การดูดซับเสียง (Sound Absorption Coefficient) คือค่าที่แสดงความสามารถในการดูดซับเสียงของวัสดุ ถ้าหากใช้วัสดุที่ดูดซับเสียงไม่ดีจะทำให้เกิดเสียงก้องภายในห้องนั้น ๆ ได้ สามารถพิจารณาค่าต่าง ๆ ได้เป็น 2 ลักษณะ คือ




Sound Absorption Coefficient (SAC)
SAC หมายถึงสัตว์ส่วนของพลังงานเสียงที่ถูกดูดซับไปเมื่อชนกระทบ เทียบกับพลังเสียงจากแหล่งกำเนิด ยกตัวอย่าง เช่น มีวัสดุหนึ่งมีค่า SAC 0.85 นั่นก็หมายความว่าพลังเสียง 85% ได้ถูกดูดซับไว้เมื่อเคลื่อนที่ไปชนกับวัสดุนี้ และ 15% ของพลังงานที่เทียบกับแหล่งกำเนิดจะสะท้อนออกมา ค่าการดูดซับเสียงของทุกวัสดุจะแปรผันกับความถี่ของเสียงที่เข้าไปกระทบ ดังนั้นค่าการดูดซับเสียง (SAC) จะถูกวัดที่หลายความถี่คือ 125, 250, 500, 1,000, 2,000 และ 4,000Hz ความถี่เหล่านี้เป็นความถี่ตรงกลางของเสียงที่วิ่งกระทบน้อยมากที่จะมีการใช้ค่า SAC ของเสียงที่ช่วงความถี่เดียวในการออกแบบทางสถาปัตยกรรม หรือระบุว่าวัสดุใด ๆ มีค่า SAC เป็นเท่าไร ในการออกแบบสถาปัตยกรรมค่า SAC จะเป็นค่าดูดซับเสียงที่ความถี่ที่เจาะจงเท่านั้น




ฉนวนกันเสียงและความรู้เบื้องต้น ACOUSTICS KNOWLEDGE คลิ๊กที่นี่ https://www.noisecontrol.company/

18

(SOUND) เกิดจากการสั่นสะเทือนของต้นกำเหนิดเสียงจากการกระทบต่ออนุภาคของตัวกลางที่อยู่รอบๆเคลื่อนที่ไปเป็นคลื่นโดยเสียงจะเดินทางได้ดีจากของแข็ง จากของเหลว ก๊าซ แต่มาสามารถเดินทางในสุญญากาศได้

เสียงดัง (NOISE )เป็นเสียงที่เราไม่ปรารถนา เสียงดังที่เกิดขึ้นการรบกวนนั้นขึ้นอยู่กับความเข้มของเสียง เช่น เสียงที่มีความถี่สูงจะรบกวนมากกว่าเสียงที่มีความถี่ต่ำเสียงบริสุทธิ์(PureTone)จะรบกวนมากกว่าเสียงที่ประกอบด้วยเสียงหลายๆเสียง

ความถี่ (HERTZ) คือจำนวนการสั่นสะเทือนต่อวินาที เรียกหน่วยความถี่เป็น HERTZ ความถี่ที่ได้ยินจะอยู่ในช่วง 20-20,000 Hz โดยปกติเราจะกำหนดเสียงที่ความถี่ทุกๆ1,000 Hz เป็นตัวแบ่งระหว่างเสียงที่มีความถี่สูงและเสียงที่มีความถี่ต่ำ เสียงควรจะเป็นเสียงเดียว ความถี่เดียว (Pure Tone) แต่ทั่วไปแล้วจะประกอบเสียงหลายๆเสียง เสียงที่มีความเข้มต่างกัน และเรียกเสียงที่มีความต่ำ (Low frequency) ว่าBass tones ส่วนเสียงที่มีความถี่สูง (High frequency)ว่า Soprano tones

สถานบันเทิง ที่ต้องการใช้เสียง เกิดปัญหาสำหรับเจ้าของกิจการต่างก็ครวญ หากควบคุมเสียงไม่ได้ตามกำหนด เนื่องจากสถานที่แบบนี้ต้องการเสียงที่ค่อนข้างเสียงดังในระดับ110-120 dB โดยทั่วไปวัดระดับเสียงได้148 dB เพื่อความเร้าใจจึงจะดึงดูดคนเที่ยว สะใจนักท่องราตรีมืออาชีพ แต่ถูกกำหนดให้ไม่เกิน 91dB เท่านั้น

ฉนวนป้องกันเสียงที่มีประสิทธิภาพที่มาเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากฉนวนกันความร้อน PU FOAM เป็นลักษณะโครงสร้างเป็นเซลล์ปิด เมื่อพ่นติดวัสดุชิ้นงานต่างๆจะยึดติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกันไม่มีรอยต่อจึงพิสูจน์ได้ว่าสามารถป้องกันเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นจากภายนอกอาคาร ป้องกันเสียงดังจากภายในโรงงานอุตสาหกรรมสถานบันเทิงต่างๆได้เป็นอย่างดีและฉนวนกันเสียงหรือฉนวนเยื่อกระดาษที่มีคุณสมบัติเป็นวัสดุดูดซับสียงและลดเสียงสะท้อนได้ดีมาก


ฉนวนกันเสียง/ฉนวนป้องกันเสียง/โฟมกันเสียง คลิ๊กที่นี่ https://www.ฉนวนกันเสียง.com/ฉนวนกันเสียงดัง/

19

ถ้าเราขุดบ่อลงไปบริเวณแหล่งน้ำในดิน เราเรียกบ่อน้ำชนิดนี้ว่า บ่อน้ำในดิน และถ้าขุดบ่อลึกลงไปมาก ๆ หรือใต้ชั้นหินจนถึงระดับน้ำบาดาล เราเรียกบ่อน้ำชนิดนี้ว่า บ่อน้ำบาดาล

น้ำธรรมชาติที่มีส่วนเกี่ยวพันกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ สัตว์ และความเจริญของพืชพันธุ์ ได้แก่ น้ำบนผิวดิน ในแต่ละวัน คนเราต้องใช้น้ำจำนวนมากทั้งในด้านการอุปโภค บริโภค การประกอบอาชีพ เช่น การประมง เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เป็นต้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องช่วยกันรักษาแหล่งน้ำธรรมชาติเหล่านี้ให้สะอาดอยู่เสมอ หากปล่อยให้มีสิ่งสกปรก เช่น ขยะ หรือน้ำทิ้ง ลงปะปนอยู่ในน้ำธรรมชาติ ก็จะทำให้แหล่งน้ำนั้นกลายเป็นน้ำเสียในภายหลัง เมื่อแหล่งน้ำดีกลายเป็นน้ำเสีย ก็จะเป็นอันตรายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคน พืช และสัตว์ ไม่เฉพาะแต่พื้นที่เดียวเท่านั้น อาจขยายบริเวณภยันตรายกว้างไกลออกไปทั้งชุมชนละแวกนั้น ๆ ได้

คุณประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของน้ำคือ อาชีพทางน้ำ
น้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับมนุษย์ทั้งในด้านการอุปโภคและบริโภค

สาเหตุที่จะทำให้น้ำในแม่น้ำลำคลอง และแหล่งน้ำธรรมชาติอื่น ๆ กลายเป็นน้ำเสีย กล่าวโดยสรุปได้แก่

1. สิ่งปฏิกูลจากบ้านเรือน

ที่อยู่อาศัยของชนที่อยู่รวมกันเป็นชุมชนเป็นย่านที่อยู่อาศัย และย่านการค้าขาย ในอาณาบริเวณดังกล่าวนี้ ย่อมจะมีน้ำทิ้งจากการอุปโภคและบริโภค เช่น น้ำจากการซักล้างและการทำครัว น้ำจากส้วมที่ไม่ได้ผ่านการบำบัดให้มีคุณภาพตามมาตรฐานและอยู่ไม่ไกลจากแม่น้ำลำคลอง น้ำทิ้งเช่นนี้จะทำให้เกิดน้ำเน่าน้ำเสียได้

2. สิ่งปฏิกูลจากการเกษตรกรรม

ในการเพาะปลูกปัจจุบันนี้ เกษตรกรใช้สารเคมีมากขึ้น เช่น ปุ๋ย สารเคมีกำจัดศัตรูพืช ซึ่งบางชนิดสลายตัวยาก สารอาจจะตกค้างอยู่ตามพืชผักผลไม้ ก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภค และบางส่วนอาจจะกระจายอยู่ตามพื้นดิน เมื่อฝนตกน้ำฝนจะชะล้างลิ่งเหล่านี้ลงแม่น้ำลำคลอง เป็นเหตุให้กุ้ง ปลา หอย ปู และสัตว์น้ำอื่น ๆ เป็นอันตรายถึงตายได้ ถ้าสัตว์น้ำได้รับสารเคมีบางชนิดในปริมาณไม่มาก ก็อาจสะสมอยู่ในตัวสัตว์ เมื่อคนจับสัตว์น้ำเหล่านี้มาทำอาหาร สารเคมีนั้นก็จะเข้าไปสะสมอยู่ในร่างกายของคนอีกทอดหนึ่ง

บริเวณเพาะปลูกอาจมีมูลสัตว์ปนอยู่ เมื่อฝนตกหรือเมื่อใช้น้ำรดพืชผักผลไม้ น้ำก็จะชะล้างสิ่งปฏิกูล คือมูลสัตว์นี้ลงสู่แม่น้ำลำคลอง ในมูลสัตว์อาจมีเชื้อโรคและพยาธิปนอยู่ เป็นเหตุให้ผู้ใช้แม่น้ำลำคลองได้รับเชื้อโรคจากสิ่งปฏิกูลนั้นได้

3. สิ่งปฏิกูลจากการอุตสาหกรรม

โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปใช้น้ำในปริมาณมากน้อยแตกต่างกัน น้ำที่ใช้ทำความสะอาดเครื่องมือและพื้นที่ในโรงงาน และน้ำทิ้งจากโรงงาน จะเป็นน้ำเสียไหลลงสู่แม่น้ำลำคลอง บางโรงงานอาจมีวัสดุเหลือจากผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมบางประเภทปนไปกับน้ำทิ้งทั้งหมดนี้ เป็นเหตุให้น้ำในแม่น้ำลำคลองเน่า ส่งกลิ่นเหม็น มีสารพิษปะปนอยู่กลายเป็นมลภาวะที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้น


บำบัดน้ำเสีย สิ่งปฏิกูลจากโรงงานอุตสาหกรรม คลิ๊กที่นี่ https://www.bcithailand.net/บำบัดน้ำเสีย/

20

เริ่ม 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2019 ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งศตวรรษ หลังจากที่ยานยนต์คันแรกได้ถือกำเนิดขึ้นบนโลก มันได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ความสะดวกสบายภายใน รวมถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ และระบบรองรับ กระทั่งกลายเป็นยานพาหนะที่สมบูรณ์แบบแทบทุกด้านอย่างในปัจจุบัน


แรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดพัฒนาการดังกล่าว ก็คือความฝัน จินตนาการ และความปรารถนาอันไม่สิ้นสุดของทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภคนั่นเอง เพราะหากปราศจากความฝันแล้ว ยานยนต์ก็คงเป็นเพียงพาหนะที่นำเราไปยังจุดหมายปลายทางเท่านั้น มิใช่นวัตกรรมที่รวบรวมสุดยอดเทคโนโลยีที่มนุษย์คิดค้นขึ้น


ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ความฝันของผู้ผลิตและผู้บริโภคหลายอย่างไม่อาจเป็นจริงด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าเพียงพอ เช่น เราไม่สามารถผลิตเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง แต่ประหยัดเชื้อเพลิง หรือสร้างสรรค์ช่วงล่างที่เกาะถนนทรงตัวดีเยี่ยม แต่ให้ความรู้สึกนิ่มนวลแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษจากไอเสียที่ปล่อยออกมา รวมถึงป้องกันอุบัติเหตุอันเกิดจากความบกพร่องและความประมาทของผู้ขับ


อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามอย่างแข็งขันของวิศวกร ประกอบกับเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ทำให้ยานยนต์ยุคใหม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ฝันไว้ทุกประการ นั่นคือ เป็นยานยนต์ที่ทั้งแรง ประหยัด สะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ความฝันถึงยานยนต์ที่มีคุณสมบัติหลากหลายในหนึ่งเดียว นำไปสู่การพัฒนาอันน่าทึ่งหลายประการ เช่น การใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ไม่แพ้เหล็กกล้า แต่มีน้ำหนักเบากว่า เช่น อลูมิเนียม และพลาสติคคุณภาพสูงมาผลิตโครงสร้าง และตัวถัง การผลิตเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ การนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ขับเคลื่อนร่วมกับเครื่องยนต์ ที่เรียกว่าระบบไฮบริด รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ทั้งแบบที่ใช้แบทเตอรี เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า และแบบที่ใช้ไฮโดรเจน หรือเซลส์เชื้อเพลิง ซึ่งทำให้ปลอดมลพิษโดยสมบูรณ์


ขณะเดียวกัน ระบบรองรับ และระบบความปลอดภัย ทั้งเชิงป้องกัน และเชิงแก้ไข ก็มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมมาก โดยการนำระบบเซนเซอร์ และระบบสั่งการอัตโนมัติมาเสริม ช่วยให้นั่งสบาย และลดการเกิดอุบัติเหตุอย่างได้ผล ในทุกระดับความเร็ว และทุกสภาพเส้นทาง




MOTOR SHOW มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 40 คลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorshow/

21

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ความฝันของผู้ผลิตและผู้บริโภคหลายอย่างไม่อาจเป็นจริงด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีที่ยังไม่ก้าวหน้าเพียงพอ เช่น เราไม่สามารถผลิตเครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูง แต่ประหยัดเชื้อเพลิง หรือสร้างสรรค์ช่วงล่างที่เกาะถนนทรงตัวดีเยี่ยม แต่ให้ความรู้สึกนิ่มนวลแก่ผู้โดยสาร ตลอดจนไม่สามารถแก้ปัญหามลพิษจากไอเสียที่ปล่อยออกมา รวมถึงป้องกันอุบัติเหตุอันเกิดจากความบกพร่องและความประมาทของผู้ขับ


อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามอย่างแข็งขันของวิศวกร ประกอบกับเทคโนโลยีการผลิตที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว ทำให้ยานยนต์ยุคใหม่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ฝันไว้ทุกประการ นั่นคือ เป็นยานยนต์ที่ทั้งแรง ประหยัด สะดวกสบาย ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


ความฝันถึงยานยนต์ที่มีคุณสมบัติหลากหลายในหนึ่งเดียว นำไปสู่การพัฒนาอันน่าทึ่งหลายประการ เช่น การใช้วัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ไม่แพ้เหล็กกล้า แต่มีน้ำหนักเบากว่า เช่น อลูมิเนียม และพลาสติคคุณภาพสูงมาผลิตโครงสร้าง และตัวถัง การผลิตเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ให้กำลังเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ การนำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ขับเคลื่อนร่วมกับเครื่องยนต์ ที่เรียกว่าระบบไฮบริด รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ทั้งแบบที่ใช้แบทเตอรี เป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า และแบบที่ใช้ไฮโดรเจน หรือเซลส์เชื้อเพลิง ซึ่งทำให้ปลอดมลพิษโดยสมบูรณ์


พร้อมนำรถรุ่นใหม่ ทั้งที่เปิดตัวในปีนี้และปีที่ผ่านมา รวมทั้งรุ่นยอดนิยม มาจัดแสดงต้อนรับต้นปีอย่างยิ่งใหญ่ โดยงานมอเตอร์โชว์ 2019 ปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562


ในปีนี้มีแบรนด์รถยนต์เข้าร่วมงานมากถึง 30 กว่าแบรนด์ เริ่มจากค่ายญี่ปุ่นอย่าง Toyota, Lexus, Nissan, Honda, Mitsubishi, Isuzu, Mazda, Subaru, Suzuki ส่วนรถเกาหลีอีก 2 แบรนด์คือ KIA และ Hyundai และรถอินเดียจาก TATA และค่ายจากประเทศจีนเช่น Foton … ฯลฯ


ในส่วนของแบรนด์รถยุโรปและรถอเมริกัน ก็มาร่วมงานอย่างมากมาย อาทิ Audi, BMW, Bentley, Mercedes-Benz, MINI, Jaguar, Porsche, Land Rover, Volvo, MG, Ford, Maserati, Chevrolet ฯลฯ




มอเตอร์โชว์ 2019 ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว คลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/motorshow/

22

วันก่อนล้างกรองบ่อเลี้ยงปลาที่บ้านแล้วพลาดทำกรองน้ำแห้งไป ๒ ชั่วโมงกว่า คิดว่าคงทำแบคทีเรียตายหมด ตอนนี้บ่อเลยเกิดน้ำเขียว/น้ำตาลครับ ปัญหาคือถ้ามันจะเขียวอยู่ตลอดเวลาก็จะได้รู้ว่ามันเขียว แต่บ่อผมนี่ มันเขียวตอนช่วงหัวค่ำจนถึงเช้า ระหว่างวันก็จะค่อยๆ ใสขึ้นเรื่อยๆ จนตอนเย็นหัวค่ำน้ำจะใส และให้ความหวังมากว่ามันหายแล้ว แต่พอเช้าขึ้นมาน้ำก็กลับไปขุ่นเขียว/น้ำตาลอีก คำถามครับ

แพลงตอนพืชหรือสัตว์อะไรที่มีพฤติกรรมแบบที่กล่าวถึงมานี่บ้างครับ? คือผมเข้าใจมาตลอดว่าถ้าน้ำเขียวมันก็เขียวตลอด และจะเขียวหนักในช่วงกลางวันเนื่องจากเป็นช่วงที่มีการสังเคราะห์แสง และเติบโต แต่ที่เกิดในบ่อตอนนี้มันกลายเป็นใสกลางวันขุ่นตอนหัวค่ำ และเช้า ซึ่งเกินความรู้ และความเข้าใจผมไปแล้ว ท่านใดพอจะมีความรู้หรือประสพการณ์รบกวนด้วยครับ เพราะกำลังกลุ้มมาก ไม่รู้จะจัดการกับมันยังไงดี ตอนนี้สิ่งที่ทำคือ

1. เติมเชื้อแบคทีเรีย อัดลงไปแล้วทั้งแบบน้ำ และแบบผง
2. เตรียมน้ำ และล้นน้ำอยู่อย่างสม่ำเสมอ
3. เย็นนี้จะติดหลอด UV ในระบบกรอง

คิดว่าคงจะแก้ปัญหาได้ แต่ก็ยังข้องใจอยู่ดีว่ามันคืออะไร

ข้อมูลบ่อเพิ่มเติมครับ
1. บ่อปูน ปริมาณน้ำประมาณ 5 ตัน แบ่งเป็นบ่อเลี้ยงปลาประมาณ 2.7 ตัน ที่เหลือเป็นระบบกรอง
2. ปลาขนาดประมาณคืบกว่าๆ จำนวน 30 ตัว ก่อนที่จะล้างบ่อกรองแล้วทำแห้งไป ไม่เคยมีปัญหาน้ำเขียวครับ

จจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของไมโครซิสติน ได้แก่ แหล่งน้ำที่มีลมสงบหรือลมพัดอ่อน อุณหภูมิ 15-30 องศา ความเป็นกรดด่าง 6-9 ปริมาณไนเตรทและฟอสเฟตสูง ส่วนใหญ่ได้มาจากการปล่อยน้ำทิ้งจากบ้านและโรงงานอุตสาหกรรม การชะล้างปุ๋ยจากภาคเกษตรกรรม การทิ้งของเสียลงแหล่งน้ำโดยไม่มีการบำบัด ล้วนมีผลทำให้ปริมาณสารอาหารในแหล่งน้ำเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับภูมิอากาศที่ร้อนเหมาะต่อการเจริญของสาหร่าย จึงทำให้สาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียมมีการเจริญมีการเจริญเติบโตดี ปี 39-40 สาหร่ายที่ผลิตสารพิษที่เกิดปัญหาส่วนใหญ่คือ


กำจัดสาหร่าย น้ำเขียว/น้ำตาลในบ่อเลี้ยงปลา คลิ๊กที่นี่ https://www.bcithailand.net/กำจัดสาหร่าย/

23

การดูดซับเสียงหรือการควบคุมเสียงสะท้อน (Sound Absorption) การออกแบบห้องที่ต้องการลดเสียงสะท้อน เช่น ห้องประชุม, โรงละคร, โรงภาพยนตร์, ห้องบรรยาย, ห้องดูหนัง – ฟังเพลง, ห้องคาราโอเกะ




หากมีเสียงสะท้อน หรือเสียงก้องเกิดขี้น จะทำให้ประสิทธิภาพของเสียงที่หูของผู้ฟังได้ยินอาจลดประสิทธิภาพลงไป ดังนั้นต้องออกแบบให้มีวัสดุที่สามารถดูดซับเสียงได้ดี เพื่อป้องกันเสียงที่มากระทบฝ้าเพดาน พื้น ผนัง โดยสามารถดูได้จากค่า NRC ซึ่งเป็นค่าที่ระบุความสามารถการดูดซับเสียงของวัสดุต่าง
วัสดุทุกชนิดสามารถดูดซับเสียงได้ในระดับที่แตกต่างกันไป เมื่อคลื่นเสียงวิ่งกระทบวัสดุ จะมีบางส่วนของพลังงานเสียงถูกดูดซับและที่เหลือจะสะท้อนออกไป และเสียงที่สะท้อนออกไปนั้นจะมีพลังงานน้อยกว่าแหล่งกำเนิดเสียงเสมอ และพลังงานเสียงที่ถูกดูดซับเข้าไปจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นพลังงานรูปอื่น โดยทั่วไปจะเป็นความร้อน และจำนวนพลังงานที่ถูกดูดซับเข้าไปจะถูกแสดงในรูปของสัมประสิทธิ์การดูดซับเสียง (Sound Absorption Coefficient) คือค่าที่แสดงความสามารถในการดูดซับเสียงของวัสดุ ถ้าหากใช้วัสดุที่ดูดซับเสียงไม่ดีจะทำให้เกิดเสียงก้องภายในห้องนั้น ๆ ได้ สามารถพิจารณาค่าต่าง ๆ ได้เป็น 2 ลักษณะ คือ




Sound Absorption Coefficient (SAC)
SAC หมายถึงสัตว์ส่วนของพลังงานเสียงที่ถูกดูดซับไปเมื่อชนกระทบ เทียบกับพลังเสียงจากแหล่งกำเนิด ยกตัวอย่าง เช่น มีวัสดุหนึ่งมีค่า SAC 0.85 นั่นก็หมายความว่าพลังเสียง 85% ได้ถูกดูดซับไว้เมื่อเคลื่อนที่ไปชนกับวัสดุนี้ และ 15% ของพลังงานที่เทียบกับแหล่งกำเนิดจะสะท้อนออกมา ค่าการดูดซับเสียงของทุกวัสดุจะแปรผันกับความถี่ของเสียงที่เข้าไปกระทบ ดังนั้นค่าการดูดซับเสียง (SAC) จะถูกวัดที่หลายความถี่คือ 125, 250, 500, 1,000, 2,000 และ 4,000Hz ความถี่เหล่านี้เป็นความถี่ตรงกลางของเสียงที่วิ่งกระทบน้อยมากที่จะมีการใช้ค่า SAC ของเสียงที่ช่วงความถี่เดียวในการออกแบบทางสถาปัตยกรรม หรือระบุว่าวัสดุใด ๆ มีค่า SAC เป็นเท่าไร ในการออกแบบสถาปัตยกรรมค่า SAC จะเป็นค่าดูดซับเสียงที่ความถี่ที่เจาะจงเท่านั้น




ฉนวนกันเสียงและความรู้เบื้องต้น ACOUSTICS KNOWLEDGE คลิ๊กที่นี่ https://www.noisecontrol.company/

24

กำจัดสาหร่ายและตะไคร่น้ำแก้ปัญหาน้ำหนืด น้ำเป็นฟอง ปรับลด PHได้ดี ไม่ทำลายจุลินทรีย์มีออกซิเจนเพิ่มขึ้น


เป็นผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อทำลายและควบคุมสาหร่ายทุกชนิด โดยจะยับยั้งการถ่ายทอดอิเล็คตรอนในปฏิกิริยาการสังเคราะห์แสงของสาหร่าย ทำให้สาหร่ายค่อยๆตายๆไปในที่สุด


1.ช่วยให้น้ำในบ่อโปร่งสวย เหมาะต่อการเลี้ยงสัตว์น้ำ


2.ช่วยลดค่า PH ทำให้สัตว์น้ำ เช่นกุ้ง ปลา กบ ตะพาบน้ำ ไม่ป่วยเป็นโรคง่าย


3.เพิ่มปริมาณออกซิเจนให้มากขึ้น แก้ปัญหาน้ำหนืด น้ำเป็นฟอง


4.ช่วยลดปัญหาสาหร่ายเข้าเหงือกสัตว์น้ำมีความปลอดภัยต่อคน และสัตว์


5.สามารถใช้ร่วมกับจุลินทรีย์ได้


อัตราการใช้


ใช้ อัลจี้ เคลียร์250กรัม/ไร่ ละลายในน้ำ20ลิตร หรือ 1กิโลกรัม/4ไร่ ละลายน้ำ80-100ลิตร แล้วนำไปสาดให้ทั่วบ่อหรือน้ำมีสีเขียว เข้มและหนืดควรเพิ่มปริมาณการใช้ให้มากขึ้น


ควรใช้ช่วงเช้าและเปิดเครื่องตีน้ำ


ไม่ควรใช้กับบ่อที่มีการเลี้ยงพืชน้ำ


ตะไคร่น้ำ คือ สาหร่ายเซลล์เดียวซึ่งเกาะยึดในพื้นที่ที่มีน้ำไหล เพราะน้ำที่ไหลมีทั้งออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ และสารอาหารไหลเวียนดี แสงดี สาหร่ายพวกนี้จะมายึดเกาะ กลายเป็นผืนเขียว ๆ


ตะไคร่น้ำยังประกอบไปด้วยสาหร่ายชนิดต่าง ๆ รวมทั้งพวกไซยาโนแบคทีเรียมาเกาะกลุ่มอยู่รวมตัวกัน บางกลุ่มเกาะยึดในบริเวณที่เปียกชื้น บางกลุ่มอยู่ในน้ำ แต่ละกลุ่มจะมีสีที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าตะไคร่น้ำมีสาหร่ายกลุ่มใดเป็นองค์ประกอบ


มักจะสับสนกับเทา ที่ป็นสาหร่ายน้ำจืด


ตะไคร่น้ำจัดอยู่ใน Protista Kingdom


Protista Kingdom


ลักษณะสำคัญของโปรติสตามีดังนี้ คือ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่จัดเป็นพืชหรือสัตว์ มีโครงสร้างง่าย ๆ ส่วนมากประกอบด้วยเซลล์เดียว ( Unicellular )


บางชนิดมีหลายเซลล์รวมกันเป็นกลุ่ม ( Colony ) หรือเป็นสายยาว ( Filament ) แต่ยังไม่เป็นเนื้อเยื่อ หรืออวัยวะ ไม่มีเอ็มบริโอ




กำจัดสาหร่าย และตะไคร่น้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ คลิ๊กที่นี่ https://www.bcithailand.net/กำจัดสาหร่าย/

25
ฮวงจุ้ย ชักโครก หรือ ห้องน้ำ หากอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดี แล้วคุณไม่สามารถเคลื่อนย้ายตำแหน่งได้ ให้แก้เคล็ดด้วยการปิดประตูห้องน้ำไว้เสมอ


“สุขา” หรือ “ห้องน้ำ” ที่ที่ใครต่อใครก็ต่างเข้าไประบายความทุกข์ ไม่ว่าจะทุกข์น้อยหรือทุกข์ใหญ่แค่ไหนก็ตาม เคยสังเกตไหมคะว่า ชักโครก บางที่นั่งแล้วรู้สึกสบายเหลือเกิน เข้าไปแล้วนั่งเพลินยากที่จะออกมา นั่นเป็นเพราะว่ามีฮวงจุ้ยที่ดี และส่วนบางห้องเมื่อเข้าแล้วรู้สึกอึดอัดจนต้องรีบออกมา ก็อาจจะเกี่ยวกับจุดที่ตั้งชักโครกไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย จะมีจุดไหนบ้างที่เราไม่ควรตั้งชักโครกและห้องน้ำไว้ ไปดูกันค่ะ


ตำแหน่งที่ไม่ควรตั้ง ชักโครก


ห้ามวางชักโครกในตำแหน่งตรงข้ามกับเส้นทแยงมุม หรือเส้นขอบของห้องน้ำ
ชักโครกต้องไม่หันไปทางทิศเดียวกับประตูบ้าน ซึ่งถือเป็นประตูที่เปิดรับสิ่งดีๆ เข้ามา และหากชักโครกหันไปทิศเดียวกับประตูบ้าน อาจจะเป็นจุดที่ขัดโชคลาภ ความสำเร็จในชีวิต
อย่าจัดวางชักโครกเผชิญหน้ากับประตูห้องน้ำโดยตรงเด็ดขาด หากมีพื้นที่จำกัด อย่างน้อยก็ควรวางเบี่ยง ให้ชักโครกหลบพ้นประตูสักนิด
ชักโครก


ห้ามวางชักโครกทางทิศเหนือ และหันหน้าชักโครกไปทางทิศใต้ เพราะอาจก่อให้เกิดความไม่สงบภายในครอบครัวคุณ
สำหรับห้องน้ำในห้องนอน ไม่ควรวางชักโครกหันหน้าตรงกับเตียงนอน
ชักโครกต้องไม่ตั้งเด่นอยู่กลางห้องน้ำ ควรวางให้ติดกับผนังห้องน้ำที่สุด
ตำแหน่งที่วางชักโครก ไม่ควรให้กระจกในห้องน้ำสะท้อนเห็นชักโครกเด็ดขาด
ชักโครก


ความเชื่อเรื่องการหันชักโครกออกทางประตูหน้าบ้าน


สำหรับความเชื่อเรื่องการหันชักโครกไปทางทิศประตูหน้าบ้านนั้น เป็นความจริงที่เกิดขึ้นในสมัยก่อน เพราะสมัยนั้นไม่มีประตูห้องน้ำเหมือนกับปัจจุบันนี้ คือ เมื่อห้องน้ำที่ไม่มีประตูปิดมิดชิดตั้งอยู่ตำแหน่งเดียวกับประตูบ้าน หากใครเดินเข้ามาเห็นเข้าเป็นอันได้ตกอกตกใจดูโจ่งแจ้งไปหมด ย่อมไม่ส่งผลดีแน่นอน แต่ปัจจุบันนี้ห้องน้ำทุกบ้านปิดมิดชิด จึงไม่มีผลต่อฮวงจุ้ย


ตำแหน่งที่ตั้งของห้องน้ำ


นอกจากตำแหน่งของชักโครกแล้ว จุดที่ตั้งของห้องน้ำก็สำคัญไม่แพ้กันหรอกค่ะ เพราะห้องน้ำเป็นแหล่งของธาตุน้ำ ซึ่งมีผลกับบ้าน เนื่องจากห้องน้ำมักจะมีพลังงานด้านลบวนเวียนอยู่เป็นประจำ เราจึงไม่ควรสร้างห้องน้ำไว้ตามจุดเหล่านี้


1.ไม่ควรตั้งบริเวณหน้าบ้าน เพราะนอกจากคนโบราณจะถือว่าส่งผลเสียในเรื่องของลมที่พัดเข้าทางหน้าบ้านแล้ว ยังจะพัดพาเอากลิ่น และความอับชื้นเข้าไปภายในบ้าน ซึ่งจะไปรบกวนคนในบ้าน




26

วันหยุดทำอะไรกินดี ชวนทำเมนูอาหารวันหยุด สูตรอาหารทั้งอาหารคาวและขนมหวานทำแสนง่าย กินได้ทุกวัยและอร่อยทั้งครอบครัว
          ใครอยากเข้าครัวทำอาหารวันหยุดเหมือนกันบ้าง ? ถ้าจะให้ดีต้องมีทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน ใครคิดไม่ออกว่าเมนูอร่อยวันหยุดมีอะไรบ้าง ขอนำเสนอวิธีทำเมนูอาหารวันหยุด เช่น จิ้มจุ่ม ปลาเผา หอยทอด และเมนูวันหยุดอื่น ๆ อีกเพียบ สูตรอาหารง่าย ๆ ที่เราก็ทำได้ที่บ้าน เป็นเมนูวันหยุดสำหรับครอบครัว ตามมาดูเมนูอร่อยวันหยุดกันได้เลยจ้า
 
1. จิ้มจุ่ม

          จากที่เคยชวนเพื่อนไปกินจิ้มจุ่มตามร้านดัง วันหยุดลองมาทำกินเองดีไหม แค่ทำน้ำซุปจิ้มจุ่มให้พร้อม เติมรสแซ่บได้ตามชอบ ส่วนเนื้อสัตว์ก็หมักแค่ครึ่งชั่วโมงก็พอแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียก
 
ส่วนผสม น้ำซุปจิ้มจุ่ม
น้ำเปล่า หรือน้ำซุปไก่ 1 ลิตร
ข่าแก่ (หั่นแว่น) 1 แง่ง
ตะไคร้ (หั่นท่อน) 2 ต้น
ผงปรุงรส 1 ก้อน (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
น้ำปลา 2-4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขามเปียก 1-2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ
ปลายช้อน
ใบมะกรูดฉีก 5 ใบ
พริกขี้หนูบุบ 5-10 เม็ด (ปริมาณตามชอบ)
ใบโหระพา 1 ต้น
ผักชีฝรั่ง (หั่นท่อน) 2 ต้น
 
ส่วนผสม หมูหมัก ไก่หมัก
เนื้อหมู (หั่นบาง ๆ) หรือเนื้อไก่
ตับหมู (หั่นบาง)
น้ำมันหอย 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
ผงปรุงรส 1-2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
แป้งมันสำปะหลัง 2-4 ช้อนโต๊ะ
 
ส่วนผสม น้ำจิ้มแจ่วมะขามเปียก
พริกป่น
น้ำตาลทราย
น้ำมะนาว
น้ำมะขามเปียก
น้ำปลา
งาขาวคั่วบุบ
ข้าวคั่ว
ผักชีฝรั่ง
 
วิธีทำน้ำซุปจิ้มจุ่ม
     1. ต้มน้ำเปล่าในหม้อ ใส่ข่ากับตะไคร้ลงไป ต้มจนเดือดปรุงรสตามชอบ
     2. ใส่ใบมะกรูด พริกทุบใบโหระพา และผักชีฝรั่งลงไป รอเดือดสักครู่ ปิดไฟ เตรียมไว้
 
วิธีทำหมูหมัก ไก่หมัก
     1. ใส่หมูลงอ่างผสม ตามด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด คลุกเคล้าจนเข้ากัน
     2. นำไปแช่เย็นประมาณ 30 นาที เตรียมไว้
 

วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว
     1. ผสมพริกป่น น้ำตาลทราย น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียกและ น้ำปลา คนให้ละลายเข้าด้วยกัน ชิมรสชาติให้ได้ตามต้องการ
     2. ใส่ข้าวคั่ว ผักชีฝรั่ง และงาขาวคั่วลงไป พร้อมเสิร์ฟ


เมนูอาหารวันหยุด สูตรอาหารง่าย ๆ ทั้งคาวหวานอร่อยกับครอบครัว


27
กล้องถ่ายภาพเป็นเครื่องมือที่สำคัญของนักถ่ายภาพ กล้องถ่ายภาพประกอบด้วยกลไกอันละเอียดอ่อน โดยเฉพาะกล้องถ่ายภาพระบบอิเล็กทรอนิคส์นักถ่ายภาพนอกจากจะใช้กล้องเป็นและถูกต้องแล้ว ยังควรรู้จักการดูแลบำรุงรักษา เพื่อให้การใช้งานได้ประสิทธิภาพในระยะยาวนานยิ่งขึ้น ปกติเวลาที่เราไปซื้อกล้องเราจะได้รับคู่มือ ซึ่งจะให้คำแนะนำต่างๆ อยู่แล้ว ผู้ใช้กล้องถ่ายภาพควรปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด ข้อเสนอแนะต่อไปนี้ อาจเป็นแนวทางเพิ่มเติมในการดูแลบำรุงรักษากล้องถ่ายภาพ

กฎเหล็ก 10 ประการที่ต้องระวังและดูแลกล้องถ่ายภาพของเรา

เรามาเรียนรู้วิธีการดูแลและข้อควรระวังในการใช้กล้องดิจิตอล

1.ห้ามเด็ดขาดคือ ห้ามตก ห้ามกระแทก ห้ามเปียก ห้ามร้อน ห้ามชื้น และห้ามโดนความเค็ม

2.เมื่อเปลี่ยนการ์ดหรือแบตเตอร์รี่ หรือเลนส์ควรปิดกล้องก่อนเสมอ

3.การ์ดที่ใช้กับกล้องครั้งแรกต้อง Format ก่อนเสมอ

4.ไม่ควรถ่ายดวงอาทิตย์หรือเล็งไปที่ดวงอาทิตย์นานๆ

5.การเปลี่ยนเลนส์ต้องระวังฝุ่นให้มากที่สุด

6.ข้อระวังเลนส์ ควรมี Filter ป้องกันไว้เสมอ

7. ระวัง LCD หน้าจอ อย่าให้กระแทก

8.การโอนข้อมูลและการทำความสะอาด CCD ต้องชาร์จแบตเตอร์รี่ให้เต็มอยู่เสมอ

9.ตั้งเวลาในกล้องให้ตรงจริงเสมอ เพื่อประโยชน์ในอนาคต

10.หากไม่จำเป็นจริงๆไม่ควรให้เพื่อนยืมกล้อง

อุปกรณ์ในการดูแลรักษากล้อง

1.ที่เป่าลมยาง (อันดับแรกสุด) ใช่เป่าเศษฝุ่นและเป่าทำความสะอาดตัวกล้อง

2.แปรงปัดฝุ่น อย่าใช้แปรงปัดฝุ่นปัดทำความสะอาดตัวกล้องและอุปกรณ์อื่นๆนอกจากผิวเลนส์

3.กระดาษเช็ดเลนส์

4.ผ้าเช็ดเลนส์

5.น้ำยาเช็ดเลนส์ (อันดับสุดท้ายถ้าเป็นไปได้ไม่ควรใช้นอกจากมีคราบฝังแน่นเป่าไม่ออก)

6. Silica Gel สารดูดความชื้น

การเก็บกล้องและเลนส์

หลังจากการนำกล้องออกใช้งานในสภาพความชื้นสูง เช่นบริเวณน้ำตก หรือถูกความชื้นจากเมฆหมอกเมื่อรอถ่ายทะเลหมอก หลังจากจบการเดินทางแล้วให้ทำให้กล้องและเลนซ์แห้งก่อนที่จะเก็บเข้าที่เก็บ โดยให้กล้องถูกแสงแดดบ้าง ให้เหมือนกันการถูกแสงแดดขณะใช้งาน จุดประสงค์เพื่อให้แสงแดดส่องผ่านเลนส์ซะบ้าง เพื่อไล่ความชื้นออกจากผิวเลนส์และภายในกระบอกเลนซ์ แต่อย่าวางกล้องตากแดดโดยตรง เพราะอาจจะร้อนเกินไปทำให้ยางในบางจุดของกล้องเสื่อมสภาพหรือเสียหายได้


]การดูแลรักษากล้อง คลิ๊กที่นี่ https://www.plawharn.com/category/it/


หน้า: 1 [2]