กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: [1] 2 3 ... 10
2
หากกำลังวางแผนสร้างบ้านหรือรีโนเวทห้องน้ำ คำว่า "สุขภัณฑ์" คงเป็นคำที่ได้ยินบ่อยที่สุด แต่ทราบหรือไม่ว่าจริงๆ แล้วสุขภัณฑ์ไม่ได้หมายถึงแค่โถส้วม อย่างที่เข้าใจ แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้การใช้ห้องน้ำสมบูรณ์แบบและถูกสุขลักษณะอีกด้วย

สุขภัณฑ์ คือ อะไร มีประเภทไหนบ้าง และเทรนด์ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ ในปัจจุบันคุ้มค่ากับการลงทุนจริงหรือไม่

1. สุขภัณฑ์ คืออะไร ทำความรู้จักหัวใจของห้องน้ำ
สุขภัณฑ์ (Sanitary Ware) คือ อุปกรณ์ที่ติดตั้งภายในห้องน้ำเพื่อใช้ในการขับถ่ายและชำระล้างร่างกาย โดยเน้นเรื่องของสุขอนามัยเป็นหลัก วัสดุส่วนใหญ่มักทำจากเซรามิกหรือพอร์ซเลน เพราะมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย และไม่ดูดซึมน้ำ

สุขภัณฑ์ห้องน้ำ พื้นฐานที่ทุกบ้านต้องมี
โถสุขภัณฑ์ หัวใจหลักของห้องน้ำ มีทั้งแบบชิ้นเดียว (สวยงาม ทำความสะอาดง่าย) และแบบสองชิ้น (ราคาประหยัด ซ่อมแซมง่าย)
อ่างล้างหน้า มีหลายดีไซน์ ทั้งแบบวางบนเคาน์เตอร์, แบบแขวนผนัง หรือแบบฝัง เพื่อตอบโจทย์พื้นที่ที่แตกต่างกัน
โถปัสสาวะ  มักใช้ในห้องน้ำชาย เพื่อความสะดวกและประหยัดน้ำ



2. อุปกรณ์ห้องน้ำ เติมเต็มการใช้งานให้สมบูรณ์
นอกจากตัวสุขภัณฑ์หลักแล้ว อุปกรณ์ห้องน้ำ อื่นๆ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นส่วนที่ช่วยเสริมฟังก์ชันการใช้งานให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น
ฝักบัวและก๊อกน้ำ ควรเลือกที่ทำจากวัสดุไม่เป็นสนิม เช่น สแตนเลส 304 หรือทองเหลืองชุบโครเมียม
สายฉีดชำระ อุปกรณ์เล็กๆ ที่ต้องเลือกความทนทานของแรงดันน้ำเป็นหลัก
ราวแขวนผ้าและที่วางสบู่ ช่วยจัดระเบียบให้ห้องน้ำดูสะอาดตา

3. ก้าวล้ำไปกับ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ
ในปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไปสู่ความสะดวกสบายและสุขอนามัยขั้นสูงสุด ทำให้ สุขภัณฑ์อัตโนมัติ กลายเป็นไอเทมยอดฮิตที่หลายบ้านเลือกใช้

ทำไมต้องเลือกสุขภัณฑ์อัตโนมัติ
Touchless Experience ลดการสัมผัสโดยตรงด้วยระบบเปิด-ปิดฝาอัตโนมัติ และระบบฟลัชเองเมื่อใช้งานเสร็จ
ความสบายเหนือระดับ มีระบบทำความร้อนที่ฝารองนั่ง และระบบเป่าลมอุ่น
ความสะอาดที่เหนือกว่า ก้านฉีดชำระที่ปรับทิศทางและอุณหภูมิได้ พร้อมระบบฆ่าเชื้อในตัว
ประหยัดพลังงานและน้ำ ระบบเซนเซอร์อัจฉริยะช่วยคำนวณปริมาณน้ำที่ใช้ได้อย่างแม่นยำ

4. เทคนิคการเลือกซื้อสุขภัณฑ์ให้คุ้มค่าและตรงใจ
เพื่อให้ได้ห้องน้ำที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ที่สุด ควรพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้

ขนาดพื้นที่ ก่อนซื้อควรวัดระยะห่างจากผนังถึงกึ่งกลางท่อน้ำทิ้งเพื่อป้องกันปัญหาติดตั้งไม่ได้
ระบบชำระล้าง มองหาเทคโนโลยีอย่าง Cyclone หรือ Tornado Flush ที่ชำระล้างได้สะอาดหมดจดโดยใช้ปริมาณน้ำน้อย
ดีไซน์และความสวยงาม เลือกโทนสีและรูปทรงที่เข้ากับกระเบื้องห้องน้ำ เพื่อคุมโทนภาพรวมของบ้าน
การรับประกันและบริการหลังการขาย สุขภัณฑ์คืออุปกรณ์ที่ใช้งานระยะยาว การมีอะไหล่รองรับจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

การเลือก สุขภัณฑ์ห้องน้ำ ไม่ใช่เพียงแค่การเลือกของใช้ชิ้นหนึ่ง แต่มันคือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตและความสะดวกสบายของสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเลือกใช้สุขภัณฑ์แบบมาตรฐาน หรืออัปเกรดเป็น สุขภัณฑ์อัตโนมัติ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเลือก อุปกรณ์ห้องน้ำ ที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับพื้นที่การใช้งาน
4
พูดคุยทั่วไป / ภาษีธุรกิจขนส่ง ต้องเสียอะไรบ้าง ?
« กระทู้ล่าสุด โดย Lali เมื่อ เมื่อวานนี้ เวลา 12:41:22 AM »


การทำธุรกิจขนส่งสินค้าในปัจจุบันกำลังเติบโตเป็นอย่างมาก การทำธุรกิจในลักษณะนี้ ต้องบริหารหลายอย่างทั้งค่าแรงของพนักงาน ค่างวดรถ ค่าน้ำมัน และค่าอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ "การเสียภาษี" วันนี้ นรินทร์ทอง ไม่พลาดที่เอาข้อมูลดีๆ มาฝากทุกท่าน เกี่ยวกับ การเสีย ภาษี ธุรกิจ ขนส่ง
สนใจอยากวางแผน ภาษีธุรกิจขนส่ง ดีตั้งแต่ต้น ปรึกษาเราได้!คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
ทำความเข้าใจ ภาษี ธุรกิจ ขนส่ง ต้องเสียอะไรบ้าง ?

1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
สำหรับ "ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)" คือ ภาษีที่จัดเก็บจากการขายสินค้า/ให้บริการในประเทศ อัตราปัจจุบัน 7% แต่ในธุรกิจขนส่งเป็นธุรกิจที่ได้รับการยกเว้น VAT และไม่มีสิทธิ์จด VAT แม้ว่าจะต้องการจด VAT ก็ตาม แต่ในบางกรณีถ้าหากมีบริการหรือขายสินค้าร่วมด้วย จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ
ธุรกิจขนส่งปกติ ขนส่งจากจุด A ไปจุด B จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ธุรกิจขนส่งที่มีบริการพ่วงด้วย จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น รถห้องเย็น เพราะรถขนส่งไม่สามารถวิ่งไปเฉยๆ จากจุด A ไปจุด B ได้ ต้องมีการเปิดแอร์ทำความเย็นตลอดการขนส่ง หากมีการแพ็กของ หรือการเช่าพื้นที่ ก็ถือเป็นขนส่งที่พ่วงบริการ
อ่านรายละเอียดการเสียภาษีธุรกิจขนส่งคลิกที่นี่
2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)
"ภาษีหัก ณ ที่จ่าย" คือ ภาษีที่ลูกค้าหักจากค่าขนส่งก่อนจ่ายเงินให้ ซึ่งธุรกิจขนส่งที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคล ผู้ว่าจ้างงานหรือกิจการที่เป็นผู้จ่ายเงิน ต้องเป็นคนหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ส่วนหนึ่งก่อนจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้าง พร้อมออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) ตามที่กฎหมายกำหนด
  • ค่าขนส่งโดยตรงจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 1%
  • บริษัทขนส่งมีการจ้างรถมาร่วมวิ่งด้วย หักภาษี ณ ที่จ่าย 5%
  • บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หัก 3%
  • ขนส่งปกติจากจุด A ไปจุด B
  • ธุรกิจที่เป็นเฟรนไชส์ให้กับธุรกิจขนส่ง
3. ภาษีเงินได้ (Income Tax)
1. กรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (เจ้าของคนเดียว)
รายได้จากการขนส่งเป็นเงินได้ประเภท 8 มาตรา 40(8) สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 แบบ คือ เหมาจ่าย 60% หรือ เลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริง หากเลือกหักตามจริงจะต้องมีเอกสารในการจ่ายที่พิสูจน์ผู้รับเงินได้ เช่น แนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับเงิน และเซ็นรับเงินไว้ พร้อมกับเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานด้วย
2. กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล (บริษัท / หจก.)
ธุรกิจขนส่งที่จดบริษัทเป็นนิติบุคคล คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% ของกำไรสุทธิ และต้องมีการทำบัญชีและยื่นภาษี ด้วยแบบ ภ.ง.ด.50 (สิ้นปี) และ ภ.ง.ด.51 (ครึ่งปี) โดยกิจการจะต้องมีการจ้างนักบัญชี เพื่อทำบัญชี งบการเงิน และเอกสารที่ต้องใช้ในการทำบัญชีธุรกิจขนส่งนิติบุคคล จะประกอบด้วย
  • ฝั่งรายรับ ได้แก่ ใบเสร็จรับเงินค่าขนส่ง หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย และเอกสารด้านรายจ่าย Statement
  • ฝั่งรายจ่าย ได้แก่ เอกสารที่จ่ายเป็นค่าน้ำมัน ทางด่วน ค่าซ่อมแซมรถ ค่าประกันรถที่นำมาวิ่งงาน และค่ารถร่วม (ถ้ามี)
อ่านวิธีการเสียภาษีธุรกิจขนส่งแต่ละแบบ พร้อมตัวอย่างการคำนวณแบบละเอียดคลิกที่นี่

สรุป ภาษีธุรกิจขนส่ง แบบเข้าใจง่าย เลือกใช้บริการบัญชีและภาษีอย่างไรไม่ให้พลาด!
จากเนื้อหาในข้างต้นจะเห็นว่า ธุรกิจขนส่งต้องดูแลภาษีหลายด้าน ทั้ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษี หัก ณ ที่จ่าย และ ภาษีเงินได้ เพราะฉะนั้นการจัดการภาษีอย่างถูกต้อง คือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจขนส่ง หากคุณไม่มั่นใจว่าจะเริ่มตรงไหน หรืออยากลดความเสี่ยงจากค่าปรับและภาษีย้อนหลังนรินทร์ทอง เราพร้อมดูแลคุณครบวงจร ทั้งด้านบัญชี การวางแผนภาษี และการให้คำปรึกษา ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
  • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
  • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
  • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
  • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
Facebook : NarinthongOfficial
E-mail : narinthong.ac@gmail.com
Line : @Narinthong
Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
5
พูดคุยทั่วไป / ภาษีธุรกิจขนส่ง ต้องเสียอะไรบ้าง ?
« กระทู้ล่าสุด โดย Lali เมื่อ เมื่อวานนี้ เวลา 12:15:50 AM »


การทำธุรกิจขนส่งสินค้าในปัจจุบันกำลังเติบโตเป็นอย่างมาก การทำธุรกิจในลักษณะนี้ ต้องบริหารหลายอย่างทั้งค่าแรงของพนักงาน ค่างวดรถ ค่าน้ำมัน และค่าอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ "การเสียภาษี" วันนี้[/color]นรินทร์ทอง[/size][/url] ไม่พลาดที่เอาข้อมูลดีๆ มาฝากทุกท่าน เกี่ยวกับ [/color]การเสีย ภาษี ธุรกิจ ขนส่ง[/size]
สนใจอยากวางแผน ภาษีธุรกิจขนส่ง ดีตั้งแต่ต้น ปรึกษาเราได้!คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่

[/color]ทำความเข้าใจ ภาษี ธุรกิจ ขนส่ง ต้องเสียอะไรบ้าง ?[/font]


[/color]1. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)[/size]

สำหรับ "ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)" คือ [/color]ภาษีที่จัดเก็บจากการขายสินค้า/ให้บริการในประเทศ อัตราปัจจุบัน 7% [/size]แต่[/color]ในธุรกิจขนส่งเป็นธุรกิจที่ได้รับการยกเว้น VAT[/size] และไม่มีสิทธิ์จด VAT แม้ว่าจะต้องการจด VAT ก็ตาม แต่ในบางกรณีถ้าหากมีบริการหรือขายสินค้าร่วมด้วย จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ[/color]ธุรกิจขนส่งปกติ[/b] ขนส่งจากจุด A ไปจุด B จะได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม[/font][/size]ธุรกิจขนส่งที่มีบริการพ่วงด้วย[/b] จะไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น รถห้องเย็น เพราะรถขนส่งไม่สามารถวิ่งไปเฉยๆ จากจุด A ไปจุด B ได้ ต้องมีการเปิดแอร์ทำความเย็นตลอดการขนส่ง หากมีการแพ็กของ หรือการเช่าพื้นที่ ก็ถือเป็นขนส่งที่พ่วงบริการ[/font][/size]
อ่านรายละเอียดการเสียภาษีธุรกิจขนส่งคลิกที่นี่
[/color][/size][/color]2. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)[/size]

"ภาษีหัก ณ ที่จ่าย" คือ [/color]ภาษีที่ลูกค้าหักจากค่าขนส่งก่อนจ่ายเงินให้[/size] ซึ่งธุรกิจขนส่งที่จดทะเบียนบริษัทเป็นนิติบุคคล [/color]ผู้ว่าจ้างงานหรือกิจการที่เป็นผู้จ่ายเงิน ต้องเป็นคนหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ส่วนหนึ่ง[/size]ก่อนจ่ายเงินให้กับผู้รับจ้าง [/color]พร้อมออกหนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)[/size] ตามที่กฎหมายกำหนด
    • [/color][/size][/color]ค่าขนส่งโดยตรงจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 1%[/size]
    [/list]
      • [/color][/size][/color]บริษัทขนส่งมีการจ้างรถมาร่วมวิ่งด้วย[/size][/color]หักภาษี ณ ที่จ่าย 5%[/size]
      [/list]
        • [/color][/size][/color]บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หัก 3%[/size]
        [/list]
          • [/color][/size][/color]ขนส่งปกติจากจุด A ไปจุด B[/size]
          [/list]
            • [/color]ธุรกิจที่เป็นเฟรนไชส์ให้กับธุรกิจขนส่ง[/size]
            [/list][/color][/size][/color]3. ภาษีเงินได้ (Income Tax)[/size]

            1.[/color][/size][/color][/size][/color]กรณีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (เจ้าของคนเดียว)[/size]
            รายได้จากการขนส่งเป็นเงินได้ประเภท 8 มาตรา 40(8) สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 2 แบบ คือ[/color] เหมาจ่าย 60%[/size] หรือ [/color]เลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริง[/size][/color]หากเลือกหักตามจริงจะต้องมีเอกสารในการจ่ายที่พิสูจน์ผู้รับเงินได้[/size] เช่น แนบสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับเงิน และเซ็นรับเงินไว้ พร้อมกับเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานด้วย
            2. [/color][/size][/color]กรณีภาษีเงินได้นิติบุคคล (บริษัท / หจก.)[/size]
            ธุรกิจขนส่งที่จดบริษัทเป็นนิติบุคคล คำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล 20% ของกำไรสุทธิ และต้องมีการทำบัญชีและยื่นภาษี ด้วยแบบ ภ.ง.ด.50 (สิ้นปี) และ ภ.ง.ด.51 (ครึ่งปี) โดยกิจการจะต้องมีการจ้างนักบัญชี เพื่อทำบัญชี งบการเงิน และเอกสารที่ต้องใช้ในการทำบัญชีธุรกิจขนส่งนิติบุคคล จะประกอบด้วย
              • [/color][/size][/color]ฝั่งรายรับ[/size][/color][/size]ได้แก่ ใบเสร็จรับเงินค่าขนส่ง หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย และเอกสารด้านรายจ่าย Statement
              [/list]
                • [/color][/size][/color]ฝั่งรายจ่าย[/size] ได้แก่ เอกสารที่จ่ายเป็นค่าน้ำมัน ทางด่วน ค่าซ่อมแซมรถ ค่าประกันรถที่นำมาวิ่งงาน และค่ารถร่วม (ถ้ามี)
                [/list]
                อ่านวิธีการเสียภาษีธุรกิจขนส่งแต่ละแบบ พร้อมตัวอย่างการคำนวณแบบละเอียดคลิกที่นี่

                [/color][/font][/color]สรุป ภาษีธุรกิจขนส่ง แบบเข้าใจง่าย เลือกใช้บริการบัญชีและภาษีอย่างไรไม่ให้พลาด![/size]

                จากเนื้อหาในข้างต้นจะเห็นว่า ธุรกิจขนส่งต้องดูแลภาษีหลายด้าน ทั้ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม, ภาษี หัก ณ ที่จ่าย และ ภาษีเงินได้ เพราะฉะนั้นการจัดการภาษีอย่างถูกต้อง คือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจขนส่ง หากคุณไม่มั่นใจว่าจะเริ่มตรงไหน หรืออยากลดความเสี่ยงจากค่าปรับและภาษีย้อนหลัง[/color]นรินทร์ทอง เราพร้อมดูแลคุณครบวงจร ทั้งด้านบัญชี การวางแผนภาษี และการให้คำปรึกษา ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น[/size]

                  • [/color]การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี[/size]
                  [/list]

                    • [/color]รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้[/size]
                    [/list]

                      • [/color]งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท[/size]
                      [/list]

                        • [/color]ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ[/size]
                        [/list]

                        สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
                        Facebook : NarinthongOfficial
                        E-mail : narinthong.ac@gmail.com
                        Line : @Narinthong
                        Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
                        7
                        พูดคุยทั่วไป / คลินิกความงาม ต้อง จด VAT ไหม ?
                        « กระทู้ล่าสุด โดย Lali เมื่อ ธันวาคม 21, 2025, 11:22:03 PM »


                        สำหรับท่านใดที่อยากเปิดธุรกิจเสริมความงาม แต่ไม่แน่ใจว่าต้อง จด VAT ไหม วันนี้ นรินทร์ทอง จะมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่า คลินิก ความ งาม ต้อง จด VAT ไหม ? แล้วแบบไหนต้องเสีย Vat และแบบไหนได้รับการยกเว้น ? เพื่อการวางแผนทางการเงิน และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ
                        อยากศึกษาเรื่องการจด VAT ก่อนประกอบธุรกิจคลินิกเสริมความงามสนใจคลิกที่นี่
                        คลินิก ความ งาม ต้อง จด VAT ไหม ?


                        1. ธุรกิจคลินิกเสริมความงามต้องจด VAT ไหม
                        • ถ้าธุรกิจคลินิกเสริมความงามของคุณ มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎหมาย คุณต้องจด VAT อย่างถูกต้อง
                        • ถ้าธุรกิจคลินิกเสริมความงามของคุณ มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (ยกเว้นกรณีที่ต้องการจดทะเบียน VAT โดยสมัครใจ) ไม่ต้องจด VAT
                        2. ธุรกิจคลินิกเสริมความงามจด VAT ตอนไหน
                        • กฎหมายกำหนดให้จดทะเบียน VAT ภายใน 30 วัน นับจากวันที่รายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
                        • ยกตัวอย่างเช่น: วันที่ 1 มกราคม 2568 คุณเปิดคลินิกเสริมความงาม
                        วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ยอดรวมรายได้สะสมของคุณตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 สิงหาคม มีมูลค่าถึง 1.8 ล้านบาท คุณจะต้องยื่นคำขอจดทะเบียน VAT ภายในวันที่ 14 กันยายน 2568


                        8]แบบไหนต้องเสีย VAT แบบไหนได้รับการยกเว้น

                        1. [/color]ธุรกิจคลินิกเสริมความงามต้องจด VAT ไหม
                        • ถ้าธุรกิจคลินิกเสริมความงามของคุณ มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎหมาย คุณต้องจด VAT อย่างถูกต้อง
                        • ถ้าธุรกิจคลินิกเสริมความงามของคุณ มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี (ยกเว้นกรณีที่ต้องการจดทะเบียน VAT โดยสมัครใจ) ไม่ต้องจด VAT
                        2. [/color]ธุรกิจคลินิกเสริมความงามจด VAT ตอนไหน
                        • กฎหมายกำหนดให้จดทะเบียน VAT ภายใน 30 วัน นับจากวันที่รายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด
                          • ยกตัวอย่างเช่น: วันที่ 1 มกราคม 2568 คุณเปิดคลินิกเสริมความงาม
                            วันที่ 15 สิงหาคม 2568 ยอดรวมรายได้สะสมของคุณตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 สิงหาคม มีมูลค่าถึง 1.8 ล้านบาท คุณจะต้องยื่นคำขอจดทะเบียน VAT ภายในวันที่ 14 กันยายน 2568

                            [/color]แบบไหนต้องเสีย VAT แบบไหนได้รับการยกเว้น


                            1. [/color]รายได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Exempt)
                            รายได้ประเภทนี้คือ รายได้ที่มาจากการให้บริการทางการแพทย์ เพื่อการรักษาโรคตามประมวลรัษฎากร ซึ่งคลินิกจะต้องจดทะเบียนเป็นสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย ยกตัวอย่างเช่น การรักษาโรคทั่วไป, การรักษาทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับผิวหนัง, การผ่าตัดศัลยกรรมเพื่อการรักษา
                            หากคลินิกมีการขายยาหรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาดังกล่าว และมีการให้คำแนะนำจากแพทย์ผู้รักษาอย่างถูกต้อง จะถือเป็นส่วนหนึ่งของรายได้จากการรักษาพยาบาลที่ได้รับยกเว้นภาษีด้วย
                            ทำความเข้าใจรายได้แต่ละรูปแบบ ของธุรกิจเสริมความงามคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่
                            2. [/color]รายได้ที่ไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Not Exempt)
                            รายได้ประเภทนี้คือ รายได้ที่มาจากการให้บริการที่เน้นด้านความสวยความงามเป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อการรักษาโรค ยกตัวอย่างเช่น หัตถการเพื่อความงาม, การขายอาหารเสริม, บริการเสริมอื่นๆ ที่เน้นความงาม
                            เมื่อมีรายได้เหล่านี้เกิน 1.8 ล้านบาทขึ้นไปต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม คิด VAT 7% และออกใบกำกับภาษีทุกครั้งที่ได้รับเงินจากลูกค้า
                            สนใจเปิดคลินิกความงาม มองหาที่ปรึกษาด้านบัญชี แนะนำที่ นรินทร์ทอง สนใจคลิก


                            [/color]คลินิกความงามต้องจด VAT ไหม ? อยากหาที่ปรึกษา ที่ นรินทร์ทอง เราพร้อมให้คำแนะนำ
                            เพื่อให้คุณสามารถมุ่งเน้นกับการพัฒนาธุรกิจ และดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่ ไร้กังวลเรื่องภาษีที่ซับซ้อน ให้ [/color] บริษัท นรินทร์ทอง จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านภาษีคู่คิด ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น

                            • [/color]การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
                            • [/color]รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
                            • [/color]งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
                            • [/color]ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ


                            สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
                            Facebook : NarinthongOfficial
                            E-mail : narinthong.ac@gmail.com
                            Line : @Narinthong
                            Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
                        9
                        พูดคุยทั่วไป / ทำบัญชีธุรกิจขนส่ง เริ่มต้นอย่างไร!
                        « กระทู้ล่าสุด โดย Lali เมื่อ ธันวาคม 21, 2025, 05:20:08 PM »



                        “ธุรกิจขนส่ง" เป็นธุรกิจที่มีต้นทุนสูงและรายละเอียดเยอะ ทั้งค่าน้ำมัน, ค่าซ่อมบำรุง, ค่าประกันภัย, ค่าแรงคนขับ ดังนั้น การวางแผน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดย นรินทร์ทอง จะพาทุกท่านไปทำความเข้าใจการวางแผน ทำบัญชีธุรกิจขนส่ง ก่อนเริ่มต้นธุรกิจอย่างถูกต้อง
                        เริ่มต้นวางแผนทำบัญชีธุรกิจขนส่งคลิกอ่านบทความเต็มๆ ที่นี่
                        การวางแผนธุรกิจขนส่ง เริ่มจากอะไร




                        1. วิเคราะห์ตลาด และลูกค้าเป้าหมาย
                        • สำรวจความต้องการ: วิเคราะห์ความต้องการในพื้นที่ที่สนใจ รวมถึงประเภทสินค้าและบริการที่ต้องการขนส่ง

                        • ศึกษาคู่แข่ง: ตรวจสอบคู่แข่งในตลาดและวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขา

                        2. จัดทำแผนธุรกิจ
                        • กำหนดเป้าหมาย: ตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวของธุรกิจ
                        • วางกลยุทธ์: กำหนดกลยุทธ์การตลาดและการดำเนินงาน

                        3. การวางแผนต้นทุนและการเงิน
                        • ต้นทุนคงที่: รถขนส่ง, ค่าเสื่อม, ค่าประกันภัย

                        • ต้นทุนผันแปร: น้ำมัน, ค่าทางด่วน, ค่าแรงพนักงาน

                        • เงินทุนหมุนเวียน: ในส่วนนี้ต้องมีไว้จ่ายก่อน เช่น น้ำมัน (แต่ลูกค้าอาจจ่ายปลายเดือน)

                        4. การวางระบบบัญชีและภาษี - ธุรกิจขนส่งเกี่ยวข้องกับภาษีหลัก 3 อย่าง
                        • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT): ต้องจดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับรายได้และประเภทการขนส่ง
                        • ภาษีหัก ณ ที่จ่าย: ลูกค้ามักจะหักไว้ 1–3% ทุกครั้ง
                        • ภาษีเงินได้: บุคคลธรรมดา (อัตราก้าวหน้า) หรือ นิติบุคคล (20% ของกำไรสุทธิ)
                        5. การจัดการด้านกฎหมายและใบอนุญาต
                        • จดทะเบียนธุรกิจ: พิจารณาเป็นบุคคลธรรมดา หรือ นิติบุคคล
                        • ขอใบอนุญาตและขึ้นทะเบียน: ขึ้นทะเบียนรถขนส่ง, ยื่นขอใบอนุญาตประกอบการขนส่ง (กรณีบางประเภท)
                        • ตรวจสอบกฎหมาย: ศึกษากฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง
                        • จัดหาประกันภัย: ประกันภัยรถขนส่ง / ประกันภัยสินค้าระหว่างขนส่ง


                        ต้นทุนของการทำธุรกิจขนส่ง


                        1. ต้นทุนตรง (Direct Costs)
                        • ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง - ต้นทุนหลัก คิดเป็นสัดส่วนสูงสุด
                        • ค่าซ่อมบำรุงและอะไหล่ - ยาง เครื่องยนต์ ระบบเบรก ฯลฯ
                        • ค่าเสื่อมราคารถขนส่ง - รถบรรทุก รถตู้ หรือรถกระบะที่ใช้ในการขนส่ง
                        • ค่าประกันภัยและภาษีรถ - ทั้งประกันภัยภาคบังคับและสมัครใจ
                        • ค่าทางด่วน/ค่าผ่านทาง/ค่าขนถ่ายสินค้า
                        [/list]
                        2. ต้นทุนแรงงาน (Labor Costs)
                          • เงินเดือนและสวัสดิการพนักงานขับรถ
                          [/list]
                            • ค่าแรงคนงานขนถ่ายสินค้า
                            [/list]
                              • ค่าอบรม/ค่าใบอนุญาตขับรถบรรทุกเฉพาะทาง
                              [/list]
                              3. ต้นทุนการดำเนินงาน (Operating Costs)
                                • ค่าเช่าออฟฟิศ/โกดัง
                                [/list]
                                  • ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต
                                  [/list]
                                    • ค่าซอฟต์แวร์บริหารงานขนส่ง (TMS), GPS Tracking
                                    [/list]
                                      • ค่าใช้จ่ายสำนักงานทั่วไป
                                      [/list]
                                      ศึกษาต้นทุนการทำบัญชีธุรกิจขนส่งแบบละเอียดอ่านเพิ่มเติมคลิก
                                      รายได้ของทำบัญชีธุรกิจขนส่ง



                                      1. รายได้จากการให้บริการขนส่ง (หลัก)
                                        • ค่าขนส่งตามระยะทาง (คิดกิโลเมตร/เที่ยว/เส้นทาง)
                                        [/list]
                                          • ค่าขนส่งแบบเหมาคัน, เหมาตู้ หรือเหมารายเดือน
                                          [/list]
                                            • ค่าบริการขนส่งด่วนพิเศษ (Express / Same-day delivery)
                                            [/list]
                                            2. รายได้จากการบริการเสริม
                                              • ค่าบริการยก-ขนถ่ายสินค้า (Loading/Unloading)
                                              [/list]
                                                • ค่าบริการจัดเก็บหรือกระจายสินค้า (Warehousing & Distribution)
                                                [/list]
                                                  • ค่าบริการบรรจุหีบห่อ (Packaging)
                                                  [/list]
                                                    • ค่าประกันสินค้าเพิ่มเติมระหว่างขนส่ง
                                                    [/list]
                                                    3. รายได้จากการเช่าใช้ทรัพย์สิน
                                                      • รายได้จากการให้เช่ารถขนส่งพร้อมคนขับ
                                                      [/list]
                                                        • รายได้จากการให้เช่าคลังสินค้า/พื้นที่เก็บของ
                                                        [/list]
                                                        4. รายได้จากค่าธรรมเนียม และบริการอื่น ๆ
                                                          • ค่าธรรมเนียมจอดรถ/พักสินค้า
                                                          [/list]
                                                            • ค่าดำเนินการเอกสาร (เช่น ใบขนสินค้า ใบตราส่ง Bill of Lading)
                                                            [/list]
                                                              • ค่าบริการจัดการภาษีหรือพิธีการศุลกากร (สำหรับขนส่งระหว่างประเทศ)
                                                              [/list]
                                                              5. รายได้ทางการเงิน/อื่น ๆ
                                                                • ดอกเบี้ยรับ (เช่น จากเงินฝากธุรกิจ)
                                                                [/list]
                                                                  • รายได้จากการขายสินทรัพย์ เช่น รถบรรทุกเก่า
                                                                  [/list]
                                                                    • รายได้อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการ เช่น รายได้จากการเช่า, รายได้จากค่าธรรมเนียม, รายได้ทางการเงิน
                                                                    [/list]
                                                                    วางแผนทำธุรกิจขนส่งรอบด้านตั้งแต่ต้น ลดความเสี่ยงทางกฎหมายและภาษีสนใจคลิก!
                                                                    ลดต้นทุน เพิ่มกำไร วางแผน ทำบัญชีธุรกิจขนส่ง กับ นรินทร์ทอง การบัญชีและภาษี

                                                                    การเลือกใช้ผู้เชี่ยวชาญอย่าง  นรินทร์ทอง การบัญชีและภาษี จะช่วยจัดการทุกขั้นตอน ตั้งแต่การบันทึกบัญชี การวางแผนภาษี จนถึงการปิดงบการเงิน ทำให้คุณโฟกัสกับการขยายธุรกิจได้เต็มที่ เพื่อให้ธุรกิจขนส่งเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ เพราะเราให้คำปรึกษาด้านการทำบัญชี ด้วยประสบการณ์ที่ให้บริการมากกว่า 20 ปี โดยมีบริการให้คุณได้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ทำให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโต และมีประสิทธิภาพในการก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็น
                                                                      • การส่งภาษีอากร ทางเราสามารถยื่นภาษีให้ได้ โดยที่คุณไม่ต้องยุ่งยากกับการจัดเตรียมเอกสาร รวมไปถึงรับจัดทำรายงาน และให้คำปรึกษาทางด้านภาษี
                                                                      [/list]
                                                                        • รับจดทะเบียนบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทของคุณ โดยไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากการจดทะเบียน เพราะเราสามารถช่วยคุณได้
                                                                        [/list]
                                                                          • งานทางด้านการเงิน จะเป็นการดำเนินเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นแบบเงินเดือน และประกันสังคมของพนักงานที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
                                                                          [/list]
                                                                            • ให้บริการรับทำบัญชี หากใครที่กำลังรู้สึกว่าการทำบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นมากมายภายในบริษัท ทางเราพร้อมที่จะดูแลคุณ
                                                                            [/list]




                                                                            สำหรับใครที่ต้องการปรึกษาสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่…
                                                                            Facebook : NarinthongOfficial
                                                                            E-mail : narinthong.ac@gmail.com
                                                                            Line : @Narinthong
                                                                            Tel : 081-627-6872 , 02-404-2339
                                                                            หน้า: [1] 2 3 ... 10